“การบินไทย” ยัน การจ้างบริษัทที่ปรึกษาด้านการฟื้นฟูกิจการ มีความจำเป็น

กรณีมีการนำเสนอข่าวที่บริษัทการบินไทยฯ จัดจ้างบริษัทที่ปรึกษาในการเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการและการจัดทำแผนเพื่อนำเสนอต่อศาลล้มละลาย  นั้น 

นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร กรรมการบริษัทฯ รักษาการแทนกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ยืนยันว่า บริษัทการบินไทยฯ ได้จัดจ้างบริษัทที่ปรึกษาผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการบริษัทฯ และดำเนินการถูกต้องตามระเบียบ  ทั้งนี้จากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้การบินไทย ต้องหยุดทำการบินชั่วคราว ส่งผลกระทบให้ขาดสภาพคล่อง และบริษัท การบินไทยฯ ต้องยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลางไปเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา และศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งรับคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯ ในวันที่27 พฤษภาคม 2563 ซึ่งศาลล้มละลายกลางได้กำหนดวันนัดไต่สวนคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯ ในวันที่ 17 สิงหาคม 2563 

บริษัทฯ ตระหนักดีว่าหากบริษัทฯ ไม่สามารถเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ จะส่งผลให้บริษัทฯ ไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ ซึ่งจะก่อให้เกิดผลกระทบและความเสียหายต่อบริษัทฯ เจ้าหนี้ พนักงานของบริษัทฯ ผู้ลงทุน ประชาชน และกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและสังคมโดยรวมของประเทศอย่างรุนแรง โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว ซึ่งถือเป็นรายได้หลักที่สำคัญของประเทศ และอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องเป็นวงกว้าง

อย่างไรก็ตาม การเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯ ต้องได้รับการยอมรับและความเชื่อถือจากทุกภาคส่วน ทั้งลูกค้า คู่ค้า เจ้าหนี้ พันธมิตรทางธุรกิจต่างๆ รวมถึงผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียขององค์กร บริษัทฯ จึงมีความจำเป็นต้องว่าจ้างที่ปรึกษา ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ด้านต่างๆ ในระดับโลก ประกอบด้วย 

  • บริษัท เบเคอร์ แอนด์ แม็คเค็นซี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมายและสัญญา 
  • บริษัท ฟินันซ่า จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาด้านโครงสร้างทางการเงิน 
  • บริษัท แมคคินซี่ แอนด์ คอมพานี (ประเทศไทย) จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจการบิน (Airline Expert) เป็นที่ปรึกษาด้านการวางแผนธุรกิจในอนาคต (Airline Business) ที่อยู่ภายใต้แผนฟื้นฟู 
  • บริษัท อีวาย คอร์ปอเรท แอดไวซอรี่ เซอร์วิสเซส จำกัด เป็นผู้ทำแผนร่วม โดยบริษัท อีวายฯ เป็นบริษัทที่มีใบอนุญาต (License) เป็นผู้ทำแผนตามข้อกำหนดของกรมบังคับคดี และเป็นบริษัทที่มีประสบการณ์ในการเป็นผู้ทำแผนมาเป็นระยะเวลายาวนานในประเทศไทย เพื่อมาช่วยดำเนินการให้บริษัทฯ เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการและจัดทำแผนฟื้นฟูฯ ให้แล้วเสร็จตามเป้าหมาย 

คณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติเห็นชอบให้บริษัทฯ ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษา โดยให้ดำเนินการตามระเบียบจัดซื้อจัดจ้างฯ อย่างถูกต้องและโปร่งใสในการว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาในอัตราที่เหมาะสม และเป็นไปตามขอบเขตของงาน (Term of Reference) ในการว่าจ้างทุกราย จึงขอให้ลูกค้า คู่ค้า เจ้าหนี้ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับบริษัทฯ ทุกภาคส่วน มีความมั่นใจว่าบริษัทฯ มีความตั้งใจที่ดำเนินการด้านต่างๆ ด้วยความโปร่งใส กระบวนการฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯ ให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง