กรมศุลกากรและกรมสรรพสามิต เร่งจับกุมผู้ลักลอบนำเข้าบุหรี่หนีภาษี ในปี 2564 หลังส่งผลกระทบต่อร้านค้าที่จำหน่ายบุหรี่อย่างถูกกฎหมาย พร้อมคุมเข้มมาตรการป้องกันและปราบปรามการลักลอบขนบุหรี่เถื่อนเข้ามาจำหน่ายในประเทศ
นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร ชี้แจงกรณีการลักลอบนำเข้าบุหรี่หนีภาษีหลังจากที่ผู้อำนวยการบริหารสมาคมการค้ายาสูบไทย ได้รับการร้องเรียนจากร้านค้าเกี่ยวกับปัญหาบุหรี่หนีภาษีและบุหรี่เถื่อนที่เข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดสงขลา พัทลุง และสตูล โดยขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเอาจริงเอาจังกับการจับกุมผู้กระทำความผิด เพื่อคุ้มครองผลประโยชน์เงินภาษีของรัฐ และรายได้ของร้านค้าที่ถูกกฎหมายในพื้นที่ หลังได้รับผลกระทบเพราะจำหน่ายสินค้าไม่ได้
อธิบดีกรมศุลกากร ชี้แจงว่าภายหลังจากที่มีปรับราคาบุหรี่ในท้องตลาดให้มีราคาสูงขึ้น ผู้บริโภคส่วนหนึ่งจึงหันไปหาบุหรี่ที่มีราคาถูก หรือยาเส้นมวนเอง แต่ในพื้นที่ภาคใต้ ผู้สูบบุหรี่กลุ่มดังกล่าว ส่วนใหญ่หันไปหาบุหรี่หนีภาษี ที่มีราคาถูกกว่าบุหรี่ที่ถูกต้องตามกฎหมายมาก ส่งผลให้เกิดการลักลอบค้าบุหรี่ผิดกฎหมายเพิ่มมากขึ้น ร้านค้าที่ขายบุหรี่ถูกต้องตามกฎหมายจึงไม่สามารถแข่งขันทางด้านราคากับบุหรี่หนีภาษีได้
จากปัญหาดังกล่าว จึงสั่งการให้กองสืบสวนและปราบปราม ร่วมกับสำนักงานศุลกากรภาคที่ 4 ให้เจ้าหน้าที่ในสังกัดด่านศุลกากรวังประจัน ด่านศุลกากรสะเดา ด่านศุลกากรปาดังเบซาร์ ด่านศุลกากรตากใบ และ ด่านศุลกากรสุไหงโก-ลก สืบสวนหาข่าวและสกัดกันขบวนการค้าบุหรี่เถื่อนในพื้นที่ รวมถึงดำเนินการตรวจค้น – จับกุม โดยประสานและสนธิกำลังกับหน่วยงานอื่นในพื้นที่ เช่น สรรพสามิตภาคที่ 9 รวมทั้งลาดตระเวนตามแนวชายแดนและลำน้ำที่เป็นพรมแดนธรรมชาติ ระหว่างประเทศไทยกับประเทศมาเลเซีย และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบถึงการกระทำที่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 และโทษตามกฎหมายรวมถึงช่องทางในการแจ้งข้อมูลข่าวสารแก่เจ้าหน้าที่
ผลการดำเนินงานดังกล่าว ทำให้สามารถจับกุมบุหรี่ที่ลักลอบนำเข้ามาได้อย่างต่อเนื่อง โดยในปีงบประมาณ 2564 นี้ (เดือนตุลาคม พ.ศ. 2563 – สิงหาคม พ.ศ. 2564) กรมศุลกากรได้จับกุมบุหรี่ได้ทั้งหมด 647 คดี คิดเป็นมูลค่า 103 ล้านบาท
ด้านนายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่าในปัจจุบันมีเส้นทางการค้าบุหรี่หนีภาษีจากประเทศเพื่อนบ้านที่ติดต่อกับชายแดนไทยอย่างต่อเนื่อง ผ่านทางด่านชายแดน เช่น สระแก้ว ปัตตานี จันทบุรี สตูล สงขลาและจังหวัดต่าง ๆ ที่เป็นศูนย์กลางทางการค้า โดยกรมสรรพสามิตได้จัดตั้งศูนย์ปราบปรามสินค้าออนไลน์ เพื่อเฝ้าระวังและติดตามจับกุมผู้กระทำผิดและผู้ต้องสงสัยทางอินเทอร์เน็ตและสื่อสังคมออนไลน์ และบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเช่น กรมศุลกากร ตำรวจ ทหาร เพื่อสกัดกั้นการลักลอบบุหรี่หนีภาษี
ทั้งนี้ จากมาตรการดังกล่าวทำให้ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 กรมสรรพสามิตสามารถจับกุมผู้กระทำผิดเกี่ยวกับสินค้าบุหรี่ผิดกฎหมายได้ทั้งสิ้น จำนวน 6,252 คดี ของกลางจำนวน 1,404,782 ซอง เปรียบเทียบปรับและประมาณการค่าปรับเป็นเงินรวม 1,248,452,588.22 บาท โดยเป็นการจับกุมผู้กระทำผิดในเขตพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย จำนวน 1,792 คดี ของกลางจำนวน 815,981 ซอง เปรียบเทียบปรับและประมาณการค่าปรับเป็นเงินรวม 1,063,263,273.57 บาท ซึ่งกรมสรรพสามิตจะติดตาม ป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้าบุหรี่เถื่อนอย่างเข้มงวด เพื่อสร้างความเป็นธรรมและความมั่นใจให้แก่ผู้ประกอบการที่เสียภาษีโดยสุจริต