นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่ากระทรวงการคลัง กล่าวชี้แจ้งในการประชุมสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ถึงเรื่องปัญหาในการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 เนื่องจากต้องการทราบว่ากระทรวงการคลังมีแนวทางจะปรับอัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างสำหรับปี 2567 เช่นเดียวกับที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้คงอัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างต่ออีก 2 ปี คือปี 2565 และ 2566 หรือไม่ เพื่อบรรเทาภาระภาษีของภาคเอกชนและประชาชน ว่า การที่คณะรัฐมนตรีไม่เพิ่มอัตราภาษีปี 2565 และปี 2566 เป็นเพราะผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 แต่เนื่องจากปัจจุบันสถานการณ์โควิด -19 เริ่มคลี่คลายมากแล้ว และภาคเอกชนเริ่มฟื้นตัว ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตามที่กำหนดไว้ เพราะรายได้จากภาษีท้องถิ่นถือเป็นเรื่องสำคัญต่อการบริหารขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อนำไปดูแลประชาชนตามวัตถุประสงค์ในการลดความเหลื่อมล้ำ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงการชดเชยงบประมาณที่ขาดหายไปในปี 2563 และปี 2564 ว่า ได้มีการนำงบกลางจ่ายชดเชยให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นบางส่วนแล้ว และการชดเชยในปี 2564 ได้มีการตั้งบประมาณจ่ายชดเชยแล้วเช่นกัน นอกจากนี้ ในอนาคตเรื่องของการประเมินภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างนั้น กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กรมธนารักษ์ และกรมที่ดิน ได้จัดทำโครงการบูรณการทะเบียนทรัพย์สินเพื่อเชื่อมโยงฐานข้อมูลการจัดเก็บภาษีให้ครบถ้วนและมีประสิทธิภาพสูงสุดด้วย
