นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เปิดเผยความคืบหน้า กรณีร้านดารุมะ ซูชิ ที่ได้จำหน่ายวอชเชอร์ (voucher) รับประทานอาหารให้แก่ผู้บริโภค จนได้รับความนิยมจากประชาชนเป็นจำนวนมาก ต่อมาภายหลังพบว่า ร้านดารุมะ ซูชิ ซึ่งมีจำนวนหลายสาขาได้ปิดตัวลงอย่างกะทันหัน จึงเป็นเหตุให้ผู้บริโภคที่ได้ซื้อ voucher รับประทานอาหารกับร้านดังกล่าวได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค จึงได้ตรวจสอบ พบว่าปัจจุบันมีผู้บริโภคร้องเรียนเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวต่อ สคบ. จำนวน 481 ราย โดยมีมูลค่าเสียหายประมาณแปดแสนกว่าบาท มีกลุ่มผู้เสียหาย 3 กลุ่ม ดังนี้ กลุ่มของผู้บริโภคที่ซื้อมาเพื่อบริโภคโดยตรง ผู้ที่ซื้อแฟรนไชส์มาดำเนินกิจการ และผู้ที่ซื้อคูปองเพื่อนำไปจำหน่ายต่อ
สำหรับข้อมูลที่ตรวจสอบจากระบบของเว็บไซต์ มีผู้ใช้บริการวอชเชอร์กว่า 600,000 ใบ มูลค่าประมาณ 127 ล้านบาท มีผู้ซื้อจำนวน 33,000 ราย และจำนวนวอชเชอร์ที่ยังไม่ได้ใช้ประมาณ 130,000 ใบ มูลค่าเกือบ 30 ล้านบาท
นอกจากนี้ สคบ.ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบบริษัท ดารุมะ ซูชิ จำกัด และร้านสาขาแล้ว รวมทั้งได้ประสานให้ผู้จัดทำแอปพลิเคชัน Daruma Sushi ผู้จัดการของร้าน และบุคคลที่อ้างว่าซื้อแฟรนไชส์ มาให้ถ้อยคำต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ พร้อมกันนี้ ทำหนังสือถึงสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อขอข้อมูลการเดินทางเข้า–ออกประเทศ ของกรรมการผู้มีอำนาจลงนามผูกพันบริษัทฯ และกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพื่อขอข้อมูลผู้ถือหุ้น ทั้งนี้ ได้รับทราบจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองว่ากรรมการผู้มีอำนาจลงนาม ได้เดินทางออกนอกประเทศ เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน ที่ผ่านมา จึงได้มอบหมายให้ สคบ.หารือกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กระทรวงยุติธรรม ซึ่งกรณีดังกล่าวสามารถดำเนินการให้เป็นคดีพิเศษ พร้อมเน้นย้ำ สคบ. ทำงานเชิงรุก เร่งสอบสวนหาข้อเท็จจริง หากพบการหลอกลวง ทำให้ผู้บริโภคเดือดร้อน ให้บังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด พร้อมสั่งการให้ สคบ. คุมเข้มการขายสินค้าโปรโมชั่น โดยเฉพาะการโฆษณาขายผ่านสื่อออนไลน์ ป้องกันไม่ให้ผู้บริโภคถูกหลอกลวง สร้างความเป็นธรรมให้ผู้บริโภค
