นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า การปรับค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำ นั้น ได้มอบนโยบายให้ปลัดกระทรวงแรงงานไปประชุมไตรภาคีจังหวัด ซึ่งได้มีการประชุมทุกจังหวัดแล้ว และได้ตัวเลขมาหมดแล้ว โดยจะมีการเกลี่ยตัวเปอร์เซ็นต์ให้เหมาะสม ตัวเลขแต่ละจังหวัดต่างกัน 1-2 บาท และแบ่งเป็น 12 ช่วง ตัวเลขจะไม่เท่ากันทุกจังหวัด ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะขึ้นพร้อมกันทุกจังหวัด เพราะจีดีพีแต่ละจังหวัดไม่เหมือนกัน
นายสุชาติกล่าวว่า ได้ให้นโยบายปลัดกระทรวงแรงงานว่า จะต้องทำให้จบภายในเดือนสิงหาคม และน่าจะเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ช่วงต้นเดือนกันยายน จากเดิมที่วางเอาไว้ให้มีผลบังคับใช้ช่วงต้นปี 2566 แต่ครั้งนี้เวลา 1 ปีกว่าที่ผ่านมา เราไม่ได้มีการปรับค่าแรงเลย วันนี้เป็นเวลาที่เหมาะสม นายจ้างเห็นดีเห็นงาม เพราะต้องการให้ลูกจ้างอยู่กับเขาต่อ
ส่วนตัวเลขค่าแรงขั้นต่ำที่เรากำหนดอยู่ 5-8% นั้น มีพื้นฐานตัวเลขมาจากจีดีพีและภาวะเงินเฟ้อ โดยเอาจีดีพีของแต่ละจังหวัดมาบวกลบคูณหาร จะสามารถตอบคำถามได้ว่าทำไมแต่ละจังหวัดได้ในอัตราเท่านี้ ขณะที่สถานการณ์ค่าครองชีพก็พิจารณาจากฐานเดิม ซึ่งในช่วงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พื้นที่จังหวัดในเขตเศรษฐกิจอีอีซี และพื้นที่ กทม. ต้องขึ้นก่อนและสูงขึ้นไป เพราะค่าครองชีพและจีดีพีจังหวัดดังกล่าวสูง”
“จะเร่งรัดเพื่อนำเข้า ครม.ในเดือนกันยายนนี้ให้ได้ ส่วนตัวอยากให้มีผลบังคับใช้วันที่ 1 ตุลาคม ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนหารือกับสภานายจ้างว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะปรับให้ขึ้นเร็วกว่าต้นปี 2566 เพราะขณะนี้สินค้าอุปโภคบริโภคมีการปรับตัวไปแล้ว” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าว