ครม. เห็นชอบข้อเสนอการปรับปรุงกฎหมายเพื่อความสะดวกในการประกอบธุรกิจ

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบตามที่คณะกรรมการปรับปรุงกฎหมายเพื่อความสะดวกในการประกอบธุรกิจ (คปธ.) เสนอการปรับปรุงกฎหมายเพื่อความสะดวกในการประกอบธุรกิจ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้การปรับปรุงกระบวนการต่ออายุใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม ได้รับความสะดวกในการประกอบกิจการได้อย่างต่อเนื่อง และการจัดตั้งศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว (One Stop Service) โดยเป็นการเพิ่มประเภทงานที่หน่วยงานภาครัฐเคยมีการปรับปรุงกฎหมายไปแล้ว ทั้งในเรื่องของการยกเว้นการตรวจสอบคนต่างด้าวชาวจีน และการยกเว้นการตรวจสอบคนต่างชาติที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นการปรับปรุงกระบวนการกฎหมายและระยะเวลาพิจารณาการอนุญาตด้านอาหาร ยา และเครื่องมือแพทย์ จากเดิมที่ใช้เวลาทำการ 178 วัน เหลือเพียง 86 วัน

นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรี ยังให้หน่วยงานทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ทบทวนกฎกระทรวงที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินธุรกิจที่มีกฎมาอย่างยาวนาน ให้เกิดการเร่งทำใหม่แก้ไขและปรับปรุง โดยให้เสนอต่อคณะรัฐมนตรี ในอีกระยะเวลาภายใน 1 เดือน ต่อจากนี้ 

ข้อเสนอการปรับปรุงกฎหมายเพื่อความสะดวกในการประกอบธุรกิจ

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและรับทราบตามที่คณะกรรมการปรับปรุงกฎหมายเพื่อความสะดวกในการประกอบธุรกิจ (คปธ.) เสนอ ดังนี้

1. เห็นชอบข้อเสนอการปรับปรุงกฎหมายเพื่อความสะดวกในการประกอบธุรกิจ และมอบหมายหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบดำเนินการภายในระยะเวลาที่กำหนด โดยให้หน่วยงานหลักที่รับผิดชอบรายงานความคืบหน้าการดำเนินการให้ คปธ. ทราบต่อไป

2. รับทราบรายงานสรุปผลการดำเนินการของ คปธ.

สาระสำคัญของเรื่อง

1. ข้อเสนอการปรับปรุงกฎหมายเพื่อความสะดวกในการประกอบธุรกิจ ที่คณะกรรมการปรับปรุงกฎหมายเพื่อความสะดวกในการประกอบธุรกิจเสนอ เป็นการดำเนินการของคณะกรรมการปรับปรุงกฎหมายฯ อาศัยอำนาจตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 272/2566 ลงวันที่ 15 ตุลาคม 2566 และคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 322/2567 เรื่อง การแต่งตั้งคณะกรรมการปรับปรุงกฎหมายฯ เพื่อมีหน้าที่และอำนาจในการเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรีในการแก้ไข ปรับปรุง หรือยกเลิกกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการดำรงชีพและธุรกิจของประชาชน เพื่อให้เกิดความสะดวกในการประกอบธุรกิจที่สอดคล้องกับสภาพการณ์ปัจจุบัน ซึ่งคณะกรรมการปรับปรุงกฎหมายฯ ได้มีมติเห็นชอบข้อเสนอการปรับปรุงกฎหมายฯ และให้เสนอข้อเสนอต่อนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรีพิจารณาแล้วเห็นสมควรให้เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นชอบในหลักการเพื่อดำเนินการต่อไป โดยข้อเสนอการปรับปรุงกฎหมายฯ ดังกล่าว ประกอบด้วย

1.1 การปรับปรุงกระบวนการต่ออายุใบอนุญาตเพื่อให้ได้รับความสะดวกในการประกอบกิจการได้อย่างต่อเนื่องโดยมอบหมายให้กรมการปกครอง ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ พิจารณาเพิ่มรายการใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมในบัญชีท้ายพระราชกฤษฎีกาการกำหนดให้ผู้รับใบอนุญาตชำระค่าธรรมเนียมการต่ออายุใบอนุญาตแทนการยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาต พ.ศ. 2564 เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถชำระค่าธรรมเนียมการต่ออายุใบอนุญาตแทนการยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตได้และกรมการปกครอง ต้องกำหนดหลักเกณฑ์และแนวทางการตรวจสอบการประกอบกิจการของผู้ได้รับอนุญาตเพื่อให้ผู้รับใบอนุญาตดำเนินการตามหลักเกณฑ์ให้ถูกต้องตามกฎหมาย

1.2 การปรับลดขั้นตอนโดยจัดตั้งศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จ เพื่ออนุญาตผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Cell) เพื่อให้ผู้ประกอบการได้รับความสะดวกรวดเร็วและลดค่าใช้จ่ายในการขออนุญาตผลิตไฟฟ้า โดยมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อปรับลดขั้นตอนโดยจัดตั้งศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จดังกล่าว ได้แก่ กระทรวงพลังงาน (สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานและกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน) กระทรวงมหาดไทย (การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย การไฟฟ้านครหลวง หรือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กระทรวงอุตสาหกรรม (กรมโรงงานอุตสาหกรรม)

       รายละเอียดของข้อเสนอการปรับปรุงกฎหมายฯ ดังกล่าว มีดังนี้

1) การต่ออายุใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม
ข้อเสนอของ คปธ.• การประกอบธุรกิจโรงแรมเป็นธุรกิจที่ต้องมีการลงทุนสูง ผู้ประกอบการมีแนวโน้ม ที่จะดำเนินกิจการต่อเนื่องระยะยาว การต่ออายุใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมจะต้องดำเนินการ ทุก 5 ปี มีระยะเวลาการพิจารณาตามคู่มือสำหรับประชาชน 66 วัน และโดยที่รัฐบาลได้มีนโยบายเร่งสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว จึงสมควรปรับปรุงกระบวนการต่ออายุใบอนุญาตเพื่อให้ผู้ประกอบการโรงแรมได้รับความสะดวกและสามารถประกอบกิจการได้อย่างต่อเนื่อง      ปัจจุบันได้มีการตราพระราชกฤษฎีกาการกำหนดให้ผู้รับใบอนุญาตชำระค่าธรรมเนียมการต่ออายุใบอนุญาตแทนการยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาต พ.ศ. 2564 เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการให้สามารถชำระค่าธรรมเนียมการต่ออายุใบอนุญาตแทนการยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตได้ใน 31 ใบอนุญาต เช่น ใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาลประเภทที่ไม่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน ใบอนุญาตจัดตั้งสถานที่จำหน่ายอาหาร เป็นต้น ทั้งนี้ การชำระค่าธรรมเนียมการต่ออายุใบอนุญาตเป็นเพียงการแสดงความประสงค์ของผู้รับใบอนุญาตที่จะประกอบกิจการต่อเนื่อง
ผู้อนุญาตยังมีหน้าที่และอำนาจในการกำกับดูแลและดำเนินการตามที่กำหนดในกฎหมายได้ ดังนั้น จึงเห็นควรที่จะเสนอให้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมสามารถดำเนินการชำระค่าธรรมเนียมแทนการยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตได้ เพื่ออำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจให้กับผู้ประกอบการโรงแรมซึ่งมีจำนวนไม่น้อยกว่า 40,917 ราย และยังเป็นการสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศ ตามวิสัยทัศน์ IGNITE THAILAND
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ต้องดำเนินการ• การดำเนินการตามข้อเสนอข้างต้น ควรมอบหมาย ดังนี้   1. กรมการปกครองร่วมกับสำนักงาน ก.พ.ร. พิจารณาเพิ่มรายการใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมในบัญชีท้ายพระราชกฤษฎีกาการกำหนดให้ผู้รับใบอนุญาตชำระค่าธรรมเนียมการต่ออายุใบอนุญาตแทนการยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาต พ.ศ. 2564 ภายใน 30 วัน นอกจากนี้ สำนักงาน ก.พ.ร. สามารถพิจารณารายชื่อใบอนุญาตอื่นเพิ่มเติมในบัญชีท้ายด้วยก็ได้   2. กรมการปกครองต้องกำหนดหลักเกณฑ์และแนวทางการตรวจสอบการประกอบกิจการหรือการดำเนินกิจการของผู้ได้รับอนุญาต เพื่อให้ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการให้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ของกฎหมายตลอดระยะเวลาระหว่างการประกอบกิจการ และควรพัฒนาระบบอนุญาตหลัก (Super License) ในการขออนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการสามารถขอใบอนุญาตหลักเพียงใบเดียวในการประกอบธุรกิจ โรงแรมและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องภายในกิจการโรงแรม เช่น ร้านอาหาร สปา สถานที่ออกกำลังกาย สระว่ายน้ำ
ซึ่งจะทำให้การประกอบธุรกิจรวดเร็วขึ้น และลดภาระให้กับผู้ประกอบการในการติดต่อหน่วยงานของรัฐหลายหน่วยงาน เพื่อให้การดำเนินการตามพระราชกฤษฎีกาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ บรรลุวัตถุประสงค์ของกฎหมายในการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนและไม่ส่งผลกระทบต่อการกำกับดูแลตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยโรงแรม
2)  การจัดตั้งศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว (One Stop Service) เพื่อการอนุญาตผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Cell)
ข้อเสนอของ คปธ.• การปรับโครงสร้างพลังงานของประเทศไทยจำเป็นต้องมีพลังงานสะอาดมากขึ้นทั้งในภาคครัวเรือนและภาคอุตสาหกรรมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและรองรับมาตรการปรับคาร์บอน ก่อนเข้าพรมแดน (Carbon Border Adjustment Mechanism : CBAM) ของสหภาพยุโรป รวมทั้งดึงดูดให้ย้ายฐานการผลิตมายังประเทศไทย ซึ่งประเทศไทยมีแผนการเพิ่มการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด โดยกำหนดสัดส่วนจากพลังงานแสงอาทิตย์สูงที่สุดเกือบร้อยละ 50 ของพลังงานสะอาดทั้งหมด แต่ในปัจจุบันผู้ขออนุญาตผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Cell) ยังพบอุปสรรคในการขออนุญาตที่มีหลายขั้นตอนและใช้เวลานาน ซึ่งต้องขออนุญาตจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้องรวม 6 หน่วยงาน โดยใช้เวลารวมประมาณ 180 วัน ประกอบกับขั้นตอนการพิจารณาและตรวจสอบสถานที่ของหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องมีความซ้ำซ้อนกันทำให้เป็นภาระกับผู้ประกอบการ ดังนั้น เพื่อให้ผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมกว่า 72,000 แห่ง ได้รับความสะดวกรวดเร็วและลดค่าใช้จ่ายในการขออนุญาตผลิตไฟฟ้า จากพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Cell) อีกทั้งยังเป็นการช่วยส่งเสริมการผลิตและการใช้พลังงานสะอาด อันจะส่งผลต่อการสร้างขีดความสามารถในการดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศและลดข้อจำกัดในการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่นโยบายทางด้านภาษี จึงควรปรับลดขั้นตอนโดยจัดตั้งศูนย์ บริการแบบเบ็ดเสร็จเพื่ออนุญาตผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Cell)
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ต้องดำเนินการ• การดำเนินการตามข้อเสนอข้างต้น ควรมอบหมาย ดังนี้ 1) ให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ทำหน้าที่เป็น One Stop Service ตั้งแต่การรับคำขอ การพิจารณา และการออกใบอนุญาต ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Cell) โดยให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 180 วัน 2) ให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) หรือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เป็นผู้ตรวจสอบการเชื่อมต่อระบบโครงข่ายไฟฟ้าเพื่อใช้ประกอบการพิจารณาออกใบอนุญาตประกอบกิจการผลิตไฟฟ้าและใบอนุญาตอื่นที่เกี่ยวข้องของสำนักงาน กกพ. ตามพระราชบัญญัติการประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ. 2550 3) ให้กรมโรงงานอุตสาหกรรม พิจารณาเร่งรัดการยกเลิกใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน (รง.4) ลำดับที่ 88 (1) ตามบัญชีท้ายกฎกระทรวงกำหนดประเภท ชนิด และขนาดของโรงงาน พ.ศ. 2563 เพื่อกำหนดให้การผลิตพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ทุกชนิด (ชนิดติดตั้งบนหลังคา ชนิดติดตั้งบนทุ่นลอยน้ำ และชนิดติดตั้งบนพื้นดิน) ทุกกำลังการผลิตไม่เข้าข่ายเป็นโรงงานเพื่อส่งเสริมให้เกิดการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์อย่างแพร่หลาย 4) ให้กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน เร่งรัดการยกเลิกใบอนุญาตพลังงานควบคุม (พค.2) สำหรับการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2539) ที่กำหนดให้การอนุญาตให้ผลิตหรือขยายการผลิตพลังงานควบคุมให้ใช้แบบ พค.2 และมาตรา 3 แห่งพระราชกฤษฎีกากำหนดพลังงานควบคุม พ.ศ. 2536 กำหนดให้พลังงานไฟฟ้าซึ่งมีขนาดการผลิตรวมของแต่ละแหล่งผลิตตั้งแต่ 200 กิโลโวลต์แอมแปร์ขึ้นไปเป็นพลังงานควบคุม เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการผลิต จำหน่ายหรือการใช้พลังงานควบคุม หากแต่ในการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ไม่จำเป็นต้องกำหนดเป็นพลังงานควบคุม เนื่องจากเทคโนโลยีการผลิตโซลาร์เซลล์มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วทำให้สามารถผลิตไฟฟ้าได้ในปริมาณมากโดยใช้จำนวนแผงเซลล์แสงอาทิตย์หรือพื้นที่ติดตั้งลดลงจากเดิม อีกทั้งยังมีมาตรฐานการตรวจสอบความปลอดภัยของระบบไฟฟ้าจาก กฟน. และ กฟภ. ในเขตพื้นที่ของการติดตั้งด้วยแล้ว      ปัจจุบันมีคำขออนุญาตผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Cell) คงค้างรอตรวจสอบการเชื่อมต่อระบบโครงข่ายไฟฟ้าอยู่ประมาณ 10,000 รายการ ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินการจัดตั้ง ศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว (One Stop Service) เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและบรรลุวัตถุประสงค์ในการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน การไฟฟ้าควรต้องเร่งพิจารณาคำขอเดิมที่คงค้างอยู่ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว

2. คณะกรรมการปรับปรุงกฎหมายฯยังได้เสนอรายงานสรุปผลการดำเนินการ ที่นายกรัฐมนตรีได้เห็นชอบแล้วและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำไปปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องด้วยแล้ว โดยเป็นข้อเสนอที่หน่วยงานดำเนินการเสร็จแล้ว เช่น การเพิ่มประเภทงาน ที่หน่วยงานภาครัฐให้การสนับสนุนเพื่อยกเว้นให้คนต่างด้าวที่เข้าทำงานไม่ต้องขอใบอนุญาตทำงาน ได้แก่ งานจัดงานเทศกาลนานาชาติ และงานเทศกาลดนตรีนานาชาติ เพื่อลดอุปสรรคในการขอใบอนุญาตทำงานและข้อเสนอที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ เช่น การปรับปรุงบัญชีท้ายพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว อยู่ระหว่างกระทรวงพาณิชย์ปรับปรุงธุรกิจ ที่ให้ได้รับการยกเว้นไม่ต้องขออนุญาต การขยายเวลาการแจ้งที่พักอาศัยของคนต่างด้าวเมื่ออาศัยอยู่ในราชอาณาจักร สำนักงาน ก.พ.ร. มีหนังสือแจ้งกระทรวงมหาดไทยเพื่อพิจารณาออกประกาศกระทรวงมหาดไทยเพื่อเพิ่มเติมกลุ่มคนต่างด้าวที่ได้รับวีซ่า เช่น วีซ่าสำหรับการทำงาน ติดต่อทางธุรกิจหรือการประชุม (Non – Immigrant “B” (Non-B)) ซึ่งการปรับปรุงกฎหมายดังกล่าวจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นด้านการลงทุนและสร้างขีดความสามารถทางการแข่งขันในภาพรวมของประเทศรวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการและการอนุมัติอนุญาตของหน่วยงานของรัฐ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง