คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการ ร่างกฎกระทรวงการผลิตสุรา (ฉบับที่ …) พ.ศ. … ตามที่กระทรวงการคลัง เสนอ
สาระสำคัญของเรื่อง
1. ร่างกฎกระทรวงการผลิตสุรา (ฉบับที่…) พ.ศ. … เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันทางการค้าของผู้ประกอบอุตสาหกรรมสุราขนาดเล็กและผู้ประกอบอุตสาหกรรมสุราขนาดกลาง ตามนโยบายการสร้างโอกาสต่อยอดจากอุตสาหกรรมเดิมเพื่อส่งเสริม Soft Power ของประเทศ และนโยบายการยกระดับการบริการภาครัฐ มีวัตถุประสงค์เป็นการปรับปรุงหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการขอใบอนุญาตและการออกใบอนุญาตผลิตสุราตามกฎกระทรวงการผลิตสุรา พ.ศ. 2565 ให้สอดคล้องกับบริบทของการประกอบธุรกิจผลิตสุราในปัจจุบัน และตอบสนองต่อนโยบายการสร้างโอกาสต่อยอดจากอุตสาหกรรมเดิมเพื่อส่งเสริม Soft Power ของประเทศ โดยการปรับใช้ภูมิปัญญาพื้นบ้านและสุราชุมชน และนโยบายการยกระดับการบริการภาครัฐให้ตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนมากยิ่งขึ้นของรัฐบาล (ตามที่นายกรัฐมนตรีได้แถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อรัฐสภา เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2567) รวมทั้งเพื่อเป็นการช่วยลดข้อจำกัดในการเข้าสู่ธุรกิจของผู้ประกอบอุตสาหกรรมสุรารายใหม่ ส่งเสริมและสนับสนุนความสามารถในการแข่งขันทางการค้า เปิดโอกาสในการสร้างรายได้และการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของผู้ประกอบอุตสาหกรรมสุราขนาดเล็กและผู้ประกอบอุตสาหกรรมสุราขนาดกลาง โดยยังคงไว้ซึ่งหลักการสำคัญในเชิงประโยชน์ของรัฐที่มีเป้าประสงค์ให้การบริหาร การจัดเก็บภาษีและการควบคุมคุณภาพมาตรฐานการผลิตสุราเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค รวมทั้งกระบวนการผลิตสุราที่ต้องไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อมเกินสมควร
2. กระทรวงการคลัง โดยกรมสรรพสามิต จึงได้ดำเนินการยกร่างกฎกระทรวงการผลิตสุรา (ฉบับที่ …) พ.ศ. …ซึ่งเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงการผลิตสุรา พ.ศ. 2565 เพื่อปรับปรุงหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องกับการผลิตสุราใน 4 ประเด็น ได้แก่ 1) ประเด็นการแก้ไขหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของผู้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตผลิตสุราจากโรงอุตสาหกรรมสุราขนาดกลาง 2) ประเด็นการแก้ไขหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโรงอุตสาหกรรมสุราขนาดกลาง 3) ประเด็นการแก้ไขหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขเกี่ยวกับสถานที่ตั้งของโรงอุตสาหกรรมสุรากลั่นขนาดเล็กและขนาดกลาง และ 4) ประเด็นการแก้ไขคำนิยามเกี่ยวกับโรงอุตสาหกรรมสุราแช่ชนิดเบียร์ประเภทผลิตเพื่อขาย ณ สถานที่ผลิต ซึ่งมีสาระสำคัญดังนี้
1. ประเด็นการแก้ไขหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของผู้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตผลิตสุราจากโรงอุตสาหกรรมสุราขนาดกลาง โดยแก้ไขให้ผู้ที่ประสงค์จะผลิตสุราสามารถยื่นคำขอรับใบอนุญาตผลิตสุราจากโรงอุตสาหกรรมสุราขนาดกลางได้ โดยไม่ต้องเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตผลิตสุราจากโรงอุตสาหกรรมสุราขนาดเล็กมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็น 2 กรณี ได้แก่ 1) กรณีสุราแช่ที่ไม่ใช่สุราแช่ชนิดเบียร์ [ข้อ 14 (3)] และ 2) กรณีสุรากลั่นชนิดสุราขาว [ข้อ 15 (4)] นอกจากนี้ ยังมีการนำหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของผู้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตผลิตสุราจากโรงอุตสาหกรรมขนาดเล็กตามข้อ 14 (2) หรือข้อ 15 (3) แล้วแต่กรณี มากำหนดเป็นเงื่อนไขของผู้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตผลิตสุราจากโรงอุตสาหกรรมขนาดกลางด้วย เพื่อให้ชัดเจนยิ่งขึ้นเพื่อให้หลักเกณฑ์และเงื่อนไขของผู้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตผลิตสุราจากโรงอุตสาหกรรมสุราขนาดกลางไม่ต้องยึดโยงกับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของผู้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตผลิตสุราจากโรงอุตสาหกรรมสุราขนาดเล็ก ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าในการลงทุนจัดตั้งธุรกิจเกี่ยวกับสุรา และยกระดับความสามารถในการแข่งขันทางการค้าให้กับผู้ประกอบการสุรารายย่อย รวมทั้งเพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ที่ประสงค์จะผลิตสุราสามารถยื่นคำขอรับใบอนุญาตผลิตสุราจากโรงอุตสาหกรรมสุราขนาดกลางได้โดยไม่ต้องเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตผลิตสุราจากโรงอุตสาหกรรมสุราขนาดเล็กมาก่อน | ||
กฎกระทรวงการผลิตสุรา พ.ศ. 2565 | ร่างกฎกระทรวงที่กระทรวงการคลังเสนอในครั้งนี้ | |
ข้อ 14 ผู้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตผลิตสุราแช่ เพื่อการค้าต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข ดังต่อไปนี้ (3) กรณีสุราแช่ที่ไม่ใช่สุราแช่ชนิดเบียร์2 ที่ผลิตจากโรงอุตสาหกรรมสุราขนาดกลาง ผู้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตต้องเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตผลิตสุราแช่ที่ไม่ใช่สุราแช่ชนิดเบียร์ตาม (2)3 มาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปีนับถึงวันที่ยื่นคำขอ ทั้งนี้ หากปรากฏว่าเคยมีประวัติการกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยภาษีสรรพสามิต จะขออนุญาตได้เมื่อพ้นกำหนดระยะเวลา 1 ปีนับแต่วันที่พ้นโทษหรือวันที่ชำระเงินค่าปรับตามจำนวนที่เปรียบเทียบ แล้วแต่กรณี ข้อ 15 ผู้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตผลิตสุรากลั่น4 เพื่อการค้าต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขดังต่อไปนี้ (4) กรณีสุรากลั่นชนิดสุราขาว5ที่ผลิตจากโรงอุตสาหกรรมสุราขนาดกลาง ผู้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตต้องเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตผลิตสุรากลั่นชนิดสุราขาวตาม (3)6 มาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปีนับถึงวันที่ยื่นคำขอ ทั้งนี้ หากปรากฏว่าเคยมีประวัติการกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยภาษีสรรพสามิตจะขออนุญาตได้เมื่อพ้นกำหนดระยะเวลา 1 ปีนับแต่วันที่พ้นโทษหรือวันที่ชำระเงินค่าปรับตามจำนวนที่เปรียบเทียบ แล้วแต่กรณี | ข้อ 2 (3) กรณีสุราแช่ที่ไม่ใช่สุราแช่ชนิดเบียร์ที่ผลิตจากโรงอุตสาหกรรมสุราขนาดกลาง ผู้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตต้อง (ก) เป็นสหกรณ์หรือกลุ่มเกษตรกรที่จดทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยสหกรณ์ หรือ (ข) เป็นวิสาหกิจชุมชนตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน หรือ (ค) เป็นองค์กรเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร หรือ (ง) เป็นนิติบุคคลประเภทห้างหุ้นส่วนสามัญ จดทะเบียนห้างหุ้นส่วนจำกัด หรือบริษัทจำกัดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ที่หุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นทุกคนเป็นบุคคลธรรมดาซึ่งมีสัญชาติไทย เว้นแต่กรณีนิติบุคคลที่ประสงค์จะขอรับใบอนุญาตผลิตสุราโดยอาศัยสนธิสัญญาที่ประเทศไทยเป็นภาคีหรือมีความผูกพันตามพันธกรณี ให้หุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นเป็นไปตามบทบัญญัติและเงื่อนไขของสนธิสัญญานั้น (นำหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของผู้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตผลิตสุราแช่ของโรงอุตสาหกรรมขนาดเล็กมากำหนด) ข้อ 3 (4) กรณีสุรากลั่นชนิดสุราขาวที่ผลิตจากโรงอุตสาหกรรมสุราขนาดกลาง ผู้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตต้อง (ก) เป็นสหกรณ์หรือกลุ่มเกษตรกรที่จดทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยสหกรณ์ หรือ (ข) เป็นวิสาหกิจชุมชนตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน หรือ (ค) เป็นองค์กรเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร หรือ (ง) เป็นนิติบุคคลประเภทห้างหุ้นส่วนสามัญจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนจำกัด หรือบริษัทจำกัดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ที่หุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นทุกคนเป็นบุคคลธรรมดาซึ่งมีสัญชาติไทย เว้นแต่กรณีนิติบุคคลที่ประสงค์จะขอรับใบอนุญาตผลิตสุราโดยอาศัยสนธิสัญญาที่ประเทศไทยเป็นภาคีหรือมีความผูกพันตามพันธกรณี ให้หุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นเป็นไปตามบทบัญญัติและเงื่อนไขของสนธิสัญญานั้น (นำหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของผู้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตผลิตสุราแช่ของโรงอุตสาหกรรมขนาดเล็กมากำหนด) | |
2. ประเด็นการแก้ไขหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโรงอุตสาหกรรมสุราขนาดกลาง กรณีสุราแช่ที่ไม่ใช่สุราแช่ชนิดเบียร์ [ข้อ16 (3)] โดยการนำหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโรงอุตสาหกรรมขนาดเล็กตามข้อ 16 (2) มากำหนดเป็นเงื่อนไขของโรงอุตสาหกรรมขนาดกลางให้ชัดเจนยิ่งขึ้น เพื่อให้หลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโรงอุตสาหกรรมสุราขนาดกลางไม่ต้องยึดโยง กับโรงอุตสาหกรรมสุราขนาดเล็ก | ||
กฎกระทรวงการผลิตสุรา พ.ศ. 2565 | ร่างกฎกระทรวงที่กระทรวงการคลังเสนอในครั้งนี้ | |
ข้อ 16 โรงอุตสาหกรรมสุราแช่ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข ดังต่อไปนี้ (3) โรงอุตสาหกรรมสุราแช่ที่ไม่ใช่สุราแช่ชนิดเบียร์ ซึ่งเป็นโรงอุตสาหกรรมสุราขนาดกลางนอกจากจะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขตาม (2)7 แล้ว ต้องใช้เครื่องจักรหรืออุปกรณ์การผลิตสุราแช่ตามมาตรฐานตามที่อธิบดีประกาศกำหนดและปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและกฎหมายเกี่ยวกับการสาธารณสุขที่เกี่ยวข้องกับการประกอบกิจการโรงอุตสาหกรรมสุราด้วย | ข้อ 5 (3) โรงอุตสาหกรรมสุราแช่ที่ไม่ใช่สุราแช่ชนิดเบียร์ ซึ่งเป็นโรงอุตสาหกรรมสุราขนาดกลาง ต้องเป็นไปความหลักเกณฑ์ ดังนี้ (ก) ต้องแยกออกจากที่อยู่อาศัยอย่างชัดเจน (ข) ต้องผลิตสุราที่มีคุณภาพและมาตรฐานตามที่อธิบดีประกาศกำหนด (ค) ต้องใช้ผลผลิตทางการเกษตรเป็นวัตถุดิบหรือส่วนประกอบในการผลิต (ง) ต้องตั้งอยู่ในทำเลและสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม มีพื้นที่เพียงพอที่จะผลิตสุรา โดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายเหตุเดือดร้อนรำคาญ หรือความเสียหายต่อบุคคลหรือทรัพย์สินของผู้อื่น (จ) ต้องใช้เครื่องจักรหรืออุปกรณ์การผลิตสุราแช่ตามมาตรฐานที่อธิบดีประกาศกำหนด (ฉ) ต้องปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและกฎหมายเกี่ยวกับการสาธารณสุขที่เกี่ยวข้องกับการประกอบกิจการโรงอุตสาหกรรมสุรา | |
3. ประเด็นการแก้ไขหลักเกณฑ์และเงื่อนไขเกี่ยวกับสถานที่ตั้งของโรงอุตสาหกรรมสุรากลั่นขนาดเล็กและขนาดกลางโดยแก้ไขให้สถานที่ตั้งของโรงอุตสาหกรรมสุรากลั่นชนิดสุราขาวสามารถตั้งอยู่ห่างจากแหล่งน้ำสาธารณะน้อยกว่า 100 เมตรได้ แต่ต้องมีระบบบำบัดน้ำเสียที่ไม่ก่อให้เกิดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมตามที่อธิบดีประกาศกำหนด ซึ่งแบ่งได้เป็น 2 กรณี ได้แก่ 1) กรณีโรงอุตสาหกรรมสุรากลั่นชนิดสุราขาวขนาดเล็ก [ข้อ 14 (1)] และ 2) กรณีโรงอุตสาหกรรมสุรากลั่นชนิดสุราขาวขนาดกลาง [ข้อ 17 (2)] นอกจากนี้ ยังมีการแก้ไขหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโรงอุตสาหกรรมขนาดกลางให้ไม่ต้องยึดโยงกับหลักเกณฑ์ของโรงอุตสาหกรรมขนาดเล็ก [นำหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโรงอุตสาหกรรมสุรากลั่นขนาดเล็ก ตามข้อ 17 (1) มากำหนดเป็นเงื่อนไขของโรงอุตสาหกรรมสุรากลั่นขนาดกลางในข้อ 17 (2) เพื่อให้ชัดเจนยิ่งขึ้น] ทั้งนี้ เพื่อเป็นการผ่อนปรนให้โรงอุตสาหกรรมสุรากลั่นขนาดเล็กและโรงอุตสาหกรรมสุรากลั่นขนาดกลางสามารถตั้งอยู่ห่างจากแหล่งน้ำสาธารณะน้อยกว่า 100 เมตรได้ เนื่องจากข้อกำหนดดังกล่าวเป็นข้อจำกัดในการจัดตั้งโรงอุตสาหกรรมสุราสำหรับผู้ประกอบการสุรารายย่อยเกินสมควร | ||
กฎกระทรวงการผลิตสุรา พ.ศ. 2565 | ร่างกฎกระทรวงที่กระทรวงการคลังเสนอในครั้งนี้ | |
ข้อ 17 โรงอุตสาหกรรมสุรากลั่นต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข ดังต่อไปนี้ (1) โรงอุตสาหกรรมสุรากลั่นชนิดสุราขาวซึ่งเป็นโรงอุตสาหกรรมสุราขนาดเล็ก ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข ดังนี้ (ก) ต้องแยกออกจากที่อยู่อาศัยอย่างชัดเจน (ข) ต้องผลิตสุราที่มีคุณภาพและมาตรฐานตามที่อธิบดีประกาศกำหนด (ค) ต้องใช้ผลผลิตทางการเกษตรเป็นวัตถุดิบหรือส่วนประกอบในการผลิต (ง) ต้องตั้งอยู่ในทำเลและสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม มีพื้นที่เพียงพอที่จะผลิตสุรา โดยไม่ก่อให้เกิดอันตราย เหตุเดือดร้อนรำคาญ หรือความเสียหายต่อบุคคลหรือทรัพย์สินของผู้อื่น (จ) ต้องตั้งอยู่ห่างจากแหล่งน้ำสาธารณะไม่น้อยกว่า 100 เมตร และต้องมีระบบบำบัดน้ำเสียที่ไม่ก่อให้เกิดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐานที่กรมควบคุมมลพิษกำหนด (2) โรงอุตสาหกรรมสุรากลั่นชนิดสุราขาวซึ่งเป็นโรงอุตสาหกรรมสุราขนาดกลาง นอกจากจะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขตาม (1) แล้วต้องใช้เครื่องจักรหรืออุปกรณ์การผลิตสุรากลั่นตามมาตรฐานตามที่อธิบดีประกาศกำหนด และปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและกฎหมายเกี่ยวกับการสาธารณสุขที่เกี่ยวข้องกับการประกอบกิจการโรงอุตสาหกรรมสุราด้วย | ข้อ 6 (จ) ต้องตั้งอยู่ห่างจากแหล่งน้ำสาธารณะไม่น้อยกว่า 100 เมตร โดยมีระบบบำบัดน้ำเสียที่ไม่ก่อให้เกิดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม หรือหากตั้งอยู่ห่างจากแหล่งน้ำสาธารณะน้อยกว่า 100 เมตร จะต้องมีระบบบำบัดน้ำเสียที่ไม่ก่อให้เกิดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมตามที่อธิบดีประกาศกำหนด ข้อ 7 (2) โรงอุตสาหกรรมสุรากลั่นชนิดสุราขาวซึ่งเป็นโรงอุตสาหกรรมสุราขนาดกลาง ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข ดังนี้ (ก) ต้องแยกออกจากที่อยู่อาศัยอย่างชัดเจน (ข) ต้องผลิตสุราที่มีคุณภาพและมาตรฐานตามที่อธิบดีประกาศกำหนด (ค) ต้องใช้ผลผลิตทางการเกษตรเป็นวัตถุดิบหรือส่วนประกอบในการผลิต (ง) ต้องตั้งอยู่ในทำเลและสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม มีพื้นที่เพียงพอที่จะผลิตสุรา โดยไม่ก่อให้เกิดอันตราย เหตุเดือดร้อนรำคาญ หรือความเสียหายต่อบุคคลหรือทรัพย์สินของผู้อื่น (จ) ต้องตั้งอยู่ห่างจากแหล่งน้ำสาธารณะไม่น้อยกว่า 100 เมตร โดยมีระบบบำบัดน้ำเสียที่ไม่ก่อให้เกิดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม หรือหากตั้งอยู่ห่างจากแหล่งน้ำสาธารณะน้อยกว่า 100 เมตร จะต้องมีระบบบำบัดน้ำเสียที่ไม่ก่อให้เกิดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมตามที่อธิบดีประกาศกำหนด (ฉ) ต้องใช้เครื่องจักรหรืออุปกรณ์การผลิตสุรากลั่นตามมาตรฐานที่อธิบดีประกาศกำหนด (ช) ต้องปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและกฎหมายเกี่ยวกับการสาธารณสุขที่เกี่ยวข้องกับการประกอบกิจการโรงอุตสาหกรรมสุรา | |
4. ประเด็นการแก้ไขคำนิยามเกี่ยวกับโรงอุตสาหกรรมสุราแช่ชนิดเบียร์ประเภทผลิตเพื่อขาย ณ สถานที่ผลิต 4.1 แก้ไขนิยามคำว่า “โรงอุตสาหกรรมสุราแช่ชนิดเบียร์ประเภทผลิตเพื่อขาย ณ สถานที่ผลิต” เป็นคำว่า “โรงอุตสาหกรรมสุราแช่ชนิดเบียร์สด” [ข้อ 16 (1) (ก)] เพื่อเป็นการผ่อนปรนและขยายโอกาสให้ โรงอุตสาหกรรมดังกล่าวสามารถนำเบียร์สด8 ออกจำหน่ายนอกสถานที่ผลิตได้ โดยจะต้องบรรจุใส่ภาชนะ ที่ออกแบบสำหรับการบรรจุเบียร์สด (ถัง Keg)9 ตามลักษณะและขนาดที่กรมสรรพสามิตประกาศกำหนดเท่านั้น (กฎกระทรวงการผลิตสุรา พ.ศ. 2565 ได้กำหนดให้โรงอุตสาหกรรมสุราแช่ชนิดเบียร์ประเภทผลิตเพื่อขาย ณ สถานที่ผลิต ผลิตสุราแช่ชนิดเบียร์เพื่อจำหน่าย ณ สถานที่ผลิตเท่านั้น เนื่องจากจากสุราแช่ชนิดเบียร์ที่ผลิตได้เป็นเบียร์สดและมีอายุการเก็บรักษาไม่นาน จึงไม่เหมาะต่อการบรรจุขวดหรือกระป๋องเพื่อนำออกจำหน่ายนอกสถานที่ผลิตนั้น) 4.2 กำหนดบทเฉพาะกาล กรณีผู้ได้รับใบอนุญาตผลิตสุราแช่ชนิดเบียร์ประเภทผลิตเพื่อขาย ณ สถานที่ผลิตตามกฎกระทรวงการผลิตสุรา พ.ศ. 2565 ให้ถือเป็นใบอนุญาตผลิตสุราแช่ชนิดเบียร์สดตามร่างกฎกระทรวงฉบับนี้ เพื่อให้ผู้ที่ถือใบอนุญาตดังกล่าวที่มีอยู่ก่อนร่างกฎกระทรวงฉบับนี้บังคับใช้สามารถดำเนินการต่อไปได้ ทั้งนี้ การแก้ไขบทบัญญัติดังกล่าวจะเป็นการเปิดโอกาสในการสร้างรายได้และส่งเสริมให้ผู้ประกอบการสุรารายย่อยสามารถขยายตลาดทางการค้าและมีการเติบโตทางธุรกิจได้ | ||
กฎกระทรวงการผลิตสุรา พ.ศ. 2565 | ร่างกฎกระทรวงที่กระทรวงการคลังเสนอในครั้งนี้ | |
ข้อ 16 โรงอุตสาหกรรมสุราแช่ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข ดังต่อไปนี้ (1) โรงอุตสาหกรรมสุราแช่ชนิดเบียร์ (ก) โรงอุตสาหกรรมแช่ชนิดเบียร์ประเภทผลิตเพื่อขาย ณ สถานที่ผลิต ต้องเป็นโรงงานที่ได้รับใบอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน หรือใช้เครื่องจักรหรืออุปกรณ์การผลิตสุราแช่ชนิดเบียร์ตามมาตรฐานตามที่อธิบดีกำหนด และต้องปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม และกฎหมายเกี่ยวกับการสาธารณสุขที่เกี่ยวข้องกับการประกอบกิจการโรงอุตสาหกรรมสุรา – เดิม ไม่มี – | ข้อ 4 (ก) โรงอุตสาหกรรมสุราแช่ชนิดเบียร์สด ต้องเป็นโรงงานที่ได้รับใบอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยโรงงานหรือใช้เครื่องจักรหรืออุปกรณ์การผลิตสุราแช่ชนิดเบียร์ตามมาตรฐานตามที่อธิบดีกำหนด โดยต้องมีลักษณะของภาชนะที่บรรจุตามที่อธิบดีประกาศกำหนดและต้องปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและกฎหมายเกี่ยวกับการสาธารณสุขที่เกี่ยวข้องกับการประกอบกิจการโรงอุตสาหกรรมสุรา ข้อ 8 (บทเฉพาะกาล) ใบอนุญาตผลิตสุราแช่ชนิดเบียร์ประเภทผลิตเพื่อขาย ณ สถานที่ผลิตตามกฎกระทรวงการผลิตสุรา พ.ศ. 2565 ให้ถือเป็นใบอนุญาตผลิตสุราแช่ชนิดเบียร์สดตามกฎกระทรวงนี้และให้ใช้ได้ต่อไปจนกว่าจะสิ้นอายุใบอนุญาต และหากผู้ได้รับใบอนุญาตผลิตสุราแช่ชนิดเบียร์ประเภทผลิตเพื่อขาย ณ สถานที่ผลิต ประสงค์จะผลิตสุราต่อเนื่องจากระยะเวลาที่กำหนดไว้ในใบอนุญาตให้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตผลิตสุราภายใน 90 วันก่อนวันที่ใบอนุญาตสิ้นอายุ และให้ใช้หลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโรงอุตสาหกรรมสุราแช่ชนิดเบียร์สดตามกฎกระทรวงนี้ในการพิจารณาอนุญาต | |
3. กระทรวงการคลัง โดยกรมสรรพสามิตได้ดำเนินการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสียต่อร่างกฎกระทรวงฉบับดังกล่าว โดยได้มีการรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องผ่านเว็บไซต์กรมสรรพสามิต (www.excise.go.th) และระบบกลางทางกฎหมาย (www.law.go.th) ระหว่างวันที่ 25 ธันวาคม 2567 ถึงวันที่ 9 มกราคม 2568 รวม 16 วัน ซึ่งมีประเด็นในการรับฟังความคิดเห็นรวม 4 ประเด็น ดังนี้ 1) ความคิดเห็นในภาพรวม 2) ความคิดเห็นต่อการกำหนดให้โรงอุตสาหกรรมสุรากลั่นที่ตั้งอยู่ห่างจากแหล่งน้ำน้อยกว่า 100 เมตร ให้มีระบบบำบัดน้ำเสียที่มีมาตรฐานเพื่อป้องกันผลกระทบต่อแหล่งน้ำสาธารณะและสิ่งแวดล้อม 3) ความคิดเห็นต่อการกำหนดให้สามารถตั้งโรงอุตสาหกรรมสุราขนาดกลางได้โดยไม่ต้องเป็นโรงอุตสาหกรรมสุราขนาดเล็กมาก่อน 1 ปี และ 4) ความคิดเห็นต่อการกำหนดให้โรงอุตสาหกรรมสุราแช่ชนิดเบียร์สดที่จะนำเบียร์สดออกจำหน่ายนอกสถานที่ผลิตต้องใช้ภาชนะที่มีมาตรฐานและออกแบบสำหรับการบรรจุเบียร์สดเพื่อเป็นการรักษาและควบคุมคุณภาพ ปรากฏว่ามีผู้แสดงความคิดเห็นผ่านเว็บไซต์ทั้งหมด 31 ราย และมีผู้แสดงความคิดเห็นโดยการส่งเป็นหนังสือถึงกรมสรรพสามิตโดยตรง 1 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เห็นด้วยกับร่างกฎกระทรวงดังกล่าว รวมทั้งมีข้อเสนอแนะ บางประการ
สุราแช่มักจะได้จากการหมักผลิตผลทางการเกษตร เช่น ธัญพืช หรือผลไม้ต่าง ๆ และตามพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ. 2493 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ได้ให้คำจำกัดความคำว่า “สุราแช่” ไว้ว่า สุราที่ไม่ได้กลั่นและให้หมายความรวมถึงสุราแช่ที่ได้ผสมกับสุรากลั่นแล้วแต่ยังมีแรงแอลกอฮอล์ไม่เกิน 15 ดีกรีด้วย เช่น เบียร์ ไวน์ สปาร์กลิ้งไวน์ และสุราแช่พื้นเมือง ทั้งนี้ ประกาศกรมสรรพสามิตเรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการผลิตสุราเพื่อการค้าและการนำสุราออกจากโรงอุตสาหกรรมเพื่อตรวจวิเคราะห์ในขั้นตอนการผลิต ได้กำหนดนิยามไว้ ดังนี้
1) เบียร์ คือ สุราแช่ที่ได้จากการหมักสารละลายที่ได้จากการต้มสกัดมอลต์ ข้าวบาร์เลย์กับฮอป หรือผลิตภัณฑ์จากฮอปโดยอาจใช้คาร์โบไฮเดรตจากวัตถุดิบอื่น ๆ เป็นส่วนผสมในการต้มสกัดด้วยหรือไม่ก็ได้
2) ไวน์ คือ สุราที่ได้จากการหมักผลไม้จำพวกองุ่นหรือผลิตภัณฑ์จากผลองุ่น
3) สปาร์กกลิ้งไวน์ คือ ไวน์ที่มีการเติมก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ หรือการเกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์จากการหมักครั้งที่ 2 ในขวดหรือภาชนะที่ปิดสนิท
4) สุราแช่พื้นเมือง คือ สุราแช่ที่ได้จากการหมักวัตถุดิบจำพวกน้ำตาล เช่น กระแช่ หรือน้ำตาลเมา หรือจากวัตถุดิบจำพวกข้าว เช่น อุ น้ำขาว หรือสาโท หากผสมสุรากลั่นต้องมีแอลกอฮอล์ไม่เกิน 15 ดีกรี
5) สุราแช่อื่น คือ สุราแช่ที่ได้จากการหมักวัตถุดิบที่มิใช่ผลไม้หรือผลิตภัณฑ์จากผลไม้และมิใช่เบียร์และ สุราแช่พื้นบ้าน
สุราแช่ที่ไม่ใช่สุราแช่ชนิดเบียร์ หมายความถึง ไวน์ สปาร์กกลิ้งไวน์ สุราแช่พื้นเมือง และสุราแช่อื่น
ข้อ 14 (2) กรณีสุราแช่ที่ไม่ใช่สุราแช่ชนิดเบียร์ที่ผลิตจากโรงอุตสาหกรรมสุราขนาดเล็ก ผู้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตต้อง
(ก) เป็นสหกรณ์หรือกลุ่มเกษตรกรที่จดทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยสหกรณ์ หรือ
(ข) เป็นวิสาหกิจชุมชนตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน หรือ
(ค) เป็นองค์กรเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร หรือ
(ง) เป็นนิติบุคคลประเภทห้างหุ้นส่วนสามัญจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด หรือบริษัทจำกัดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ที่หุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นทุกคนเป็นบุคคลธรรมดา ซึ่งมีสัญชาติไทยเว้นแต่กรณีนิติบุคคลที่ประสงค์จะขอรับใบอนุญาตผลิตสุราโดยอาศัยสนธิสัญญาที่ประเทศไทยเป็นภาคีหรือมีความผูกพันตามพันธกรณี ให้หุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นเป็นไปตามบทบัญญัติและเงื่อนไขของสนธิสัญญานั้น
สุรากลั่นมักจะได้จากการนำสุราแช่ที่ผลิตจากธัญพืช รากพืช ผลผลิตจากน้ำตาล หรือผลไม้ แล้วนำมากลั่น และตามพระราชบัญญัติสุราฯ ได้ให้คำจำกัดความคำว่า “สุรากลั่น” ไว้ว่า สุราที่ได้กลั่นแล้วและให้หมายความรวมถึง สุรากลั่นที่ได้ผสมกับสุราแช่แล้ว แต่มีแรงแอลกอฮอล์เกินกว่า 15 ดีกรีด้วย ทั้งนี้ ประกาศกรมสรรพสามิต เรื่องหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการผลิตสุราเพื่อการค้าและการนำสุราออกจากโรงอุตสาหกรรมเพื่อตรวจวิเคราะห์ในขั้นตอนการผลิตได้กำหนดนิยามของประเภทของสุรากลั่นไว้ 6 ประเภท
- เอทานอล คือ สุรากลั่นที่มีแรงแอลกอฮอล์ตั้งแต่ 99.5 ดีกรีขึ้นไป สำหรับนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิง
- สุราสามทับ คือ สุรากลั่นที่มีแรงแอลกอฮอล์ตั้งแต่ 80 ดีกรีขึ้นไป
- สุราขาว คือ สุรากลั่นที่ปราศจากเครื่องย้อมหรือสิ่งผสมปรุงแต่ง มีแรงแอลกอฮอล์ต่ำกว่า 80 ดีกรี
- สุราผสม คือ สุรากลั่นที่ใช้สุราขาวหรือสุราสามทับมาปรุงแต่ง มีแรงแอลกอฮอล์ต่ำกว่า 80 ดีกรี
- สุราปรุงพิเศษ คือ สุรากลั่นที่ใช้สุราสามทับมาปรุงแต่ง มีแรงแอลกอฮอล์ต่ำกว่า 80 ดีกรี
- สุราพิเศษ คือ สุรากลั่นที่ทำขึ้นตามแบบสุราต่างประเทศโดยใช้กรรมวิธีพิเศษ มีแรงแอลกอฮอล์ต่ำกว่า 80 ดีกรี ซึ่งแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ 1.ประเภทวิสกี้ บรั่นดี รัม ยิน หรือสุราแบบต่างประเทศอย่างอื่น และ 2.ประเภทเกาเหลียง เชี่ยงชุน บุ้นกุ่ยโล่วหรือสุราแบบจีนอย่างอื่น
สุราขาว คือ สุรากลั่นที่ปราศจากเครื่องย้อมหรือสิ่งผสมปรุงแต่ง มีแรงแอลกอฮอล์ต่ำกว่า 80 ดีกรี
ข้อ 15 (3) กรณีสุรากลั่นชนิดสุราขาวที่ผลิตจากโรงอุตสาหกรรมสุราขนาดเล็ก ผู้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตต้อง
(ก) เป็นสหกรณ์หรือกลุ่มเกษตรกรที่จดทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยสหกรณ์ หรือ
(ข) เป็นวิสาหกิจชุมชนตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน หรือ
(ค) เป็นองค์กรเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร หรือ
(ง) เป็นนิติบุคคลประเภทห้างหุ้นส่วนสามัญจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด หรือบริษัทจำกัดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ที่หุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นทุกคนเป็นบุคคลธรรมดา ซึ่งมีสัญชาติไทย เว้นแต่กรณีนิติบุคคลที่ประสงค์จะขอรับใบอนุญาตผลิตสุราโดยอาศัยสนธิสัญญาที่ประเทศไทยเป็นภาคีหรือมีความผูกพันตามพันธกรณี ให้หุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นเป็นไปตามบทบัญญัติและเงื่อนไขของสนธิสัญญานั้น
ข้อ 16 (2) โรงอุตสาหกรรมสุราแช่ที่ไม่ใช่สุราแช่ชนิดเบียร์ ซึ่งเป็นโรงอุตสาหกรรมสุราขนาดเล็กต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข ดังนี้
(ก) ต้องแยกออกจากที่อยู่อาศัยอย่างชัดเจน
(ข) ต้องผลิตสุราที่มีคุณภาพและมาตรฐานตามที่อธิบดีประกาศกำหนด
(ค) ต้องใช้ผลผลิตทางการเกษตรเป็นวัตถุดิบหรือส่วนประกอบในการผลิต
(ง) ต้องตั้งอยู่ในทำเลและสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม มีพื้นที่เพียงพอที่จะผลิตสุรา โดยไม่ก่อให้เกิดอันตราย เหตุเดือดร้อนรำคาญ หรือความเสียหายต่อบุคคลหรือทรัพย์สินของผู้อื่น
(จ) ต้องใช้เครื่องจักรหรืออุปกรณ์การผลิตสุราแช่ตามมาตรฐานที่อธิบดีประกาศกำหนด
(ฉ) ต้องปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและกฎหมายเกี่ยวกับการสาธารณสุขที่เกี่ยวข้องกับกิจการโรงอุตสาหกรรมสุรา
เบียร์สด (Draft Beer) จะเป็นชนิดของเบียร์ที่เน้นวิธีการเสิร์ฟเบียร์มากกว่าการเน้นกระบวนการผลิต โดยเบียร์ใดๆ ที่ถูกเก็บในถังและเสิร์ฟจากก็อกโดยไม่ได้ผ่านการพาสเจอไรซ์ (pasteurization) จะสามารถเรียกได้ว่าเป็นเบียร์สด ไม่ว่าจะเป็นคราฟท์เบียร์หรือเบียร์ที่ผลิตจากโรงอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ก็ตาม ซึ่งเบียร์สดจะมีความสดใหม่และมีรสชาติที่สดชื่นกว่าเบียร์ในขวดหรือกระป๋อง เพราะเบียร์ในถังถูกเก็บภายใต้ความดันและมีโอกาสสัมผัสกับออกซิเจนและแสงน้อยกว่า ซึ่งช่วยรักษาคุณภาพของเบียร์ได้ดีกว่า อย่างไรก็ตาม เบียร์สด (Draft Beer) และคราฟเบียร์ (Craft Beer) มีความแตกต่างกัน ทั้งในด้านการผลิต ซึ่งคราฟท์เบียร์ถูกนิยามตามกระบวนการผลิตและขนาดของโรงเบียร์ ในขณะที่เบียร์สดถูกนิยามตามวิธีการเสิร์ฟในด้านรสชาติ คราฟท์เบียร์จะมีรสชาติที่หลากหลายกว่าเบียร์สด เนื่องจากเป็นเบียร์ฝีมือที่ผลิตขึ้นจากโรงเบียร์ขนาดเล็ก ส่วนเบียร์สดจะสามารถเป็นเบียร์ใดๆ ก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นคราฟท์เบียร์หรือเบียร์จากแบรนด์ใหญ่
ถัง Keg เป็นถังบาร์เรลขนาดเล็กทำจากแสตนเลสสตีลใช้ในการบรรจุและขนส่งเบียร์ รวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือไม่มีแอลกอฮอล์อื่นๆ อีกด้วย เนื่องจากถัง Keg มีความสามารถในเก็บเครื่องดื่มและทนแรงดัน จึงทำให้สามารถรักษาความสดใหม่ในเครื่องดื่มได้ดี