นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาล โดยกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เชิญชวนเกษตรกรทั่วประเทศ เร่งดำเนินการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ประจำปีการผลิต 2568/69 เพื่อให้หน่วยงานต่างๆ สามารถนำข้อมูลจากทะเบียนเกษตรกรไปใช้ประโยชน์ร่วมกันได้ โดยนำไปวางแผนพัฒนาการเกษตรให้เกษตรกรและเกษตรกรเองจะได้รับความสะดวกในการใช้สิทธิ์ขอรับการสนับสนุนช่วยเหลือ หรือรับบริการต่างๆ จากภาครัฐ โดยเฉพาะช่วงเวลานี้เป็นฤดูกาลเพาะปลูกข้าวนาปี เมื่อทำการเพาะปลูกข้าว พืชไร่ พืชผักหรือพืชอายุสั้นแล้ว เกษตรกรควรขึ้นทะเบียนหรือปรับปรุงทะเบียนภายใน 15 วันหลังเพาะปลูก และไม่เกิน 60 วันก่อนเก็บเกี่ยว สำหรับไม้ผล ไม้ยืนต้น (พืชอายุยาว) เกษตรกรควรแจ้งขึ้นทะเบียนหรือปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรหลังปลูกแล้วไม่น้อยกว่า 30 วัน หรือที่ยังยืนต้นอยู่
ทั้งนี้ เกษตรกรสามารถขึ้นทะเบียนเกษตรกร ผ่านช่องทางการบริการของรัฐ ได้ 3 ช่องทาง โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ได้แก่ 1. แจ้งข้อมูลด้วยตนเองที่สำนักงานเกษตรอำเภอที่ตั้งแปลงปลูก หรือจุดให้บริการที่เจ้าหน้าที่ประกาศไว้ 2. ผ่านเว็บไซต์ http://efarmer.doae.go.th (e-Form) ด้วยตนเอง 3. ผ่านแอปพลิเคชัน FARMBOOK (เฉพาะเกษตรกรรายเดิม แปลงเดิม)
ข้อมูลทะเบียนเกษตรกรถือเป็นกลไกสำคัญ ที่ใช้ในการขับเคลื่อนนโยบายของภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็นการเยียวยาผู้ประสบภัยพิบัติ การสนับสนุนปัจจัยการผลิต การส่งเสริมด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม หรือแม้กระทั่งการวางแผนด้านเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมในระดับประเทศ การที่เกษตรกรขึ้นทะเบียนและแจ้งข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วน จะเป็นประโยชน์กับตัวเกษตรกรเองโดยตรง ทั้งในแง่ของการได้รับสิทธิประโยชน์ การเข้าถึงความช่วยเหลือและการพัฒนาอาชีพอย่างยั่งยืนในระยะยาว ขอความร่วมมือพี่น้องเกษตรกรทุกคน อย่าละเลยหรือมองข้ามการขึ้นทะเบียน เพราะนี่คือรากฐานสำคัญของการพัฒนาเกษตรกรรมไทยให้ก้าวหน้าอย่างมั่นคง