ประเทศไทยใช้สิทธิประโยชน์การค้าเสรี (FTA) ช่วง 4 เดือนแรกปี 2568 เกือบ 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า มูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าภายใต้ความตกลงการค้าเสรี (FTA) ของไทยในช่วงเดือนมกราคม–เมษายน 2568 อยู่ที่ 28,834.57 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 13.46% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยคิดเป็นสัดส่วน 79.45% ของมูลค่าการส่งออกสินค้าที่ได้รับสิทธิทั้งหมด

สำหรับตลาดส่งออกที่มีการใช้สิทธิ์สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่

1. อาเซียน (ATIGA) มูลค่า 10,259.88 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สัดส่วน 66.34%

2. จีน (ACFTA) มูลค่า 7,032.96 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สัดส่วน 91.02%

3. อินเดีย (AIFTA) มูลค่า 4,475.67 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สัดส่วน 84.29%

4. ญี่ปุ่น (JTEPA) มูลค่า 2,062.61 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สัดส่วน 75.57%

5. ออสเตรเลีย (TAFTA) มูลค่า 1,850.89 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สัดส่วน 59.39%

สินค้า 5 อันดับแรกที่มีการใช้สิทธิ์ FTA ส่งออกมากที่สุด ได้แก่

• ยานยนต์เพื่อการพาณิชย์ขนาดเล็ก (ดีเซล/กึ่งดีเซล) มูลค่า 2,112.47 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

• แพลทินัมกึ่งสำเร็จรูป/ผง มูลค่า 1,655.82 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

• ยางสังเคราะห์ผสมยางธรรมชาติ มูลค่า 1,138.09 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

• ทุเรียนสด มูลค่า 955.57 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

• แพลทินัมในรูปแบบอื่น มูลค่า 760.76 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ในด้านสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูปที่ใช้สิทธิ FTA มากที่สุด 5 รายการ ได้แก่ ทุเรียนสด, น้ำตาลจากอ้อย, ไก่ปรุงแต่ง, เนื้อสัตว์ปีกแช่แข็ง และผลไม้สด เช่น เงาะ ลำไย ทับทิมสด รวมมูลค่า 6,898.01 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็น 23.92% ของการใช้สิทธิทั้งหมด

ส่วนสินค้าอุตสาหกรรม ได้แก่ ยานยนต์, แพลทินัม, ยางสังเคราะห์ และเครื่องปรับอากาศ รวมมูลค่า 21,936.56 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 76.08%

ทั้งนี้ จาก FTA ที่ไทยมีอยู่ 12 ฉบับ พบว่ามีการใช้สิทธิเพิ่มขึ้นใน 5 ฉบับ ได้แก่

1. อาเซียน–อินเดีย เพิ่มขึ้น 159.18%

2. RCEP เพิ่มขึ้น 23.59%

3. อาเซียน (ATIGA) เพิ่มขึ้น 8.39%

4. อาเซียน–จีน เพิ่มขึ้น 4.91%

5. อาเซียน–เกาหลี เพิ่มขึ้น 3.86%

การขยายตัวดังกล่าว สอดคล้องกับมูลค่าการส่งออกโดยรวมของไทยในช่วงเดียวกัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 93,904.61 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2567 เป็น 106,789.28 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2568

รัฐบาลให้ความสำคัญกับการขยายตลาดส่งออก และส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ FTA อย่างเต็มที่ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและสร้างแต้มต่อทางการค้าบนเวทีโลก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง