นายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังได้รับมอบหมายจากนายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้กำกับดูแล 4 หน่วยงานหลัก ได้แก่ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กรมการค้าต่างประเทศ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) และสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (องค์การมหาชน) หรือ ITD
โดยตั้งเป้าขับเคลื่อน 3 ภารกิจสำคัญภายในระยะเวลา 90 วัน คือ สนับสนุนการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ โดยกระทรวงพาณิชย์มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนทีมเจรจาภาษีกับสหรัฐฯ ผ่าน 3 แนวทาง คือ การจัดเตรียมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เช่น รายการสินค้าและข้อมูลการค้าระหว่างประเทศ การวางกลยุทธ์เจรจาต่อรอง โดยวิเคราะห์ผลกระทบเชิงลึกต่อภาคส่งออก ภาคอุตสาหกรรม เกษตรกรและผู้ผลิตภายในประเทศ และการเตรียมมาตรการรองรับผลกระทบ เพื่อให้ภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบสามารถปรับตัวได้อย่างราบรื่นที่สุด
เร่งเดินหน้าเจรจา FTA กับ EU และเกาหลีใต้ เนื่องจากการขยายตลาดใหม่ถือเป็นหัวใจของการส่งเสริมการส่งออก โดยเฉพาะความคืบหน้าของการเจรจาความตกลงการค้าเสรี (FTA) กับสหภาพยุโรป (EU) และเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นตลาดศักยภาพที่มีมูลค่าส่งออกสูง ช่วยสร้างรายได้และการจ้างงานในประเทศ การเร่งรัด FTA จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของไทย และผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาว
ยกระดับ SME ไทยให้เชื่อมโยงสู่ซัพพลายเชนโลก การส่งเสริมผู้ประกอบการ SME ให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ จะดำเนินการผ่าน 3 แนวทางหลัก ได้แก่ การลดกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินธุรกิจ , การช่วยเหลือ SME ให้ปรับตัวตามมาตรฐานใหม่ เช่น ข้อกำหนดด้านหลักเกณฑ์การคำนวณ “มูลค่าในประเทศ” หรือ RVC (Regional Value Content) ซึ่งจะมีผลต่อการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ และ การผลักดันให้กระทรวงพาณิชย์เป็นศูนย์กลางในการจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ระหว่าง SME ที่มีศักยภาพกับตลาดโลก พร้อมปรับปรุงกระบวนการทำงานภายในกระทรวงให้เป็นรูปแบบ One Stop Service เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ
นายฉันทวิชญ์ กล่าวว่า ทั้ง 3 ภารกิจนี้จะเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจไทยในระยะยาว เราจะผลักดันให้เกิดผลเป็นรูปธรรมภายใน 90 วันตามที่ตั้งเป้าไว้ เพื่อประโยชน์กับพี่น้องคนไทยทุกคน