นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาล โดยสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA ได้รายงานสถานการณ์อาชญากรรมทางออนไลน์ในปี 2567 ซึ่งพบว่ามีกรณีโฆษณาหลอกลวงมากถึง 3,381 เรื่อง รวมถึงการหลอกลงทุน ปลอมแปลงเป็นบุคคลมีชื่อเสียง สถาบันการเงิน หรือเพจร้านค้าออนไลน์ปลอม สร้างความเสียหายรวมกว่า 19,000 ล้านบาท ภายในระยะเวลาเพียงปีเดียว
ในขณะที่ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) รายงานว่า ปี 2567 มีคดีอาชญากรรมไซเบอร์มากกว่า 400,000 คดี คิดเป็นมูลค่าความเสียหายรวมสูงกว่า 60,000 ล้านบาท และในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 มีคดีสะสมแล้วกว่า 166,000 คดี โดยมากกว่า 50% เป็นคดีเกี่ยวกับ การซื้อขายสินค้าออนไลน์ ซึ่งกลุ่มผู้เสียหายหลักคือ “ผู้หญิงวัยทำงาน” คิดเป็นสัดส่วนถึง 64% สะท้อนว่ากลุ่มผู้ใช้งานดิจิทัลประจำเป็นเป้าหมายหลักของกลุ่มมิจฉาชีพ
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ยกระดับการกำกับดูแลแพลตฟอร์มดิจิทัล โดยอาศัยอำนาจตาม พระราชกฤษฎีกาการประกอบธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัล พ.ศ. 2568 (กฎหมาย DPS) โดยล่าสุด สพธอ. ได้ออกประกาศ ที่ ธพด. 4/2568 กำหนดรายชื่อบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลประเภทตลาดสินค้า ที่ต้องปฏิบัติตาม มาตรา 20 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 10 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป หากฝ่าฝืนจะมีบทลงโทษตามกฎหมาย
รัฐบาลได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการความร่วมมืออย่างเข้มข้นทั้งเชิงนโยบายและการปฏิบัติ เพื่อควบคุมและกำกับดูแลแพลตฟอร์มดิจิทัลให้มีความรับผิดชอบต่อเนื้อหาบนระบบของตน รวมถึงป้องกันการหลอกลวงทางออนไลน์ พร้อมกันนี้ ขอเตือนประชาชนให้เพิ่มความระมัดระวัง ตรวจสอบข้อมูลก่อนทำธุรกรรมออนไลน์ทุกครั้ง หากพบพฤติกรรมน่าสงสัย สามารถแจ้งเบาะแสผ่าน สายด่วนศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ 1441 หรือ เว็บไซต์ www.thaipoliceonline.com
