นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แถลงยืนยันว่า ยังไม่มีการเปิดด่านชายแดนไทย–กัมพูชาในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ตามที่ปรากฏในข่าว โดยการเปิดด่านจะเป็น “ขั้นตอนสุดท้าย” ซึ่งต้องเกิดขึ้นภายหลังจากที่สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างสองประเทศยุติลงอย่างสมบูรณ์
ปฏิญญาร่วมที่ไทยและกัมพูชาลงนาม โดยมีสหรัฐอเมริกาและมาเลเซียเป็นสักขีพยาน ได้กำหนดแนวทางให้แต่ละประเทศดำเนินการอย่างชัดเจน ซึ่งไทยไม่ใช่ฝ่ายละเมิดข้อตกลง จึงต้องรอให้ฝ่ายกัมพูชาดำเนินการก่อน เช่น การถอนอาวุธหนัก ซึ่งขณะนี้กัมพูชาได้เริ่มถอนแล้ว แสดงให้เห็นถึงท่าทีที่ดีขึ้น
ไทยจะดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องหลังจากกัมพูชาปฏิบัติตามข้อตกลง เพื่อสร้างความเข้าใจและสนับสนุนการเจรจาให้เกิดผลที่ดีขึ้น โดยมีกองทัพทั้งสองฝ่ายหารือร่วมกัน และมีคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน (AOT) เข้ามาตรวจสอบ
นอกจากนี้ ทั้งสองประเทศยังอยู่ระหว่างการหารือด้านความมั่นคงและความร่วมมือในการปราบปรามกลุ่มสแกมเมอร์ รวมถึงการจัดระเบียบพื้นที่ชายแดน โดยเฉพาะบริเวณบ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว จังหวัดสระแก้ว
การเปิดด่านจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อสถานการณ์สงบและความขัดแย้งยุติลง พร้อมเดินหน้าฟื้นฟูและพัฒนาความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างสมบูรณ์ โดยยึดมั่นในเกียรติภูมิของประเทศไทยและความสงบสุขของประชาชน








