นายขรรค์ไชย ทันธิมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร พร้อมด้วยพันจ่าเอก อนุสิทธิ์ บัวหุ่ง นายอำเภอคำเขื่อนแก้ว ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์ฉุกเฉินบริเวณสะพานศิริโยธาพัฒนา ซึ่งเป็นสะพานคอนกรีตขนาดใหญ่ข้ามแม่น้ำชี เชื่อมระหว่างบ้านดอนขะยอม ต.สงเปือย อ.คำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร และบ้านดอนคำ ต.คำไฮ อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด หลังได้รับรายงานว่าสะพานมีการทรุดตัวเพิ่มเติม สร้างความกังวลใจให้กับประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก
จากการตรวจสอบ พบว่า สะพานศิริโยธาพัฒนาแห่งนี้ เปิดใช้งานมาตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม 2543 ด้วยงบประมาณก่อสร้าง 17 ล้านบาท มีความยาว 180 เมตร ถือเป็นเส้นเลือดใหญ่ในการสัญจรและขนส่งสินค้าของประชาชนทั้งสองจังหวัดมานานกว่า 25 ปี และประชาชนเริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติตั้งแต่ปลายเดือนกันยายน 2568 ที่ผ่านมา

สาเหตุเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวรุนแรงก่อนหน้านี้ เนื่องจากมีสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่และเมื่อสถานการณ์คลี่คลายระดับน้ำลดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้พบว่าบริเวณตอม่อที่ 4 ซึ่งอยู่ในร่องน้ำลึกถูกน้ำกัดเซาะดินใต้ฐานราก อีกทั้งมีเศษซากต้นไม้และกอไผ่ขนาดใหญ่ที่ถูกน้ำพัดมาติดค้างอยู่ที่เสาสะพานเป็นจำนวนมาก กลายเป็นอุปสรรคขวางทางน้ำและเพิ่มแรงปะทะจนตอม่อรับน้ำหนักไม่ไหวจนเกิดการทรุดตัวลงในที่สุด
ปัจจุบัน ตอม่อเสาสะพานต้นที่ 4 มีการทรุดตัวลงจากระดับปกติแล้วประมาณ 12 เซนติเมตร ซึ่งแขวงทางหลวงชนบทยโสธรที่รับผิดชอบได้มีการรายงานผู้บังคับบัญชาเหนือขึ้นไปทราบ พร้อมมีการส่งทีมวิศวกรลงพื้นที่ตรวจสอบ ประเมินความเสี่ยง และวางแผนเตรียมมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาไปเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา รวมถึงมีการนำป้ายแจ้งเตือน “สะพานชำรุด” และ “ห้ามรถบรรทุกหนักผ่าน” มาติดตั้งแจ้งให้ประชาชนได้ทราบ โดยอนุญาตให้เฉพาะรถจักรยานยนต์และรถยนต์ขนาดเล็กสัญจรผ่านไปมาได้ด้วยความระมัดระวัง
หลังรับทราบข้อมูลทั้งหมด รองผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร มีข้อสั่งการเร่งด่วน โดยเน้นย้ำให้ทุกฝ่ายทำงานเชิงรุกเพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝัน โดยให้ อ.คำเขื่อนแก้ว ประสานงานกับ อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด เพื่อแจ้งเตือนประชาชนทั้งสองฝั่งให้รับทราบสถานการณ์และใช้เส้นทางด้วยความระมัดระวังสูงสุด
ขณะเดียวกัน ให้จัดชุดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อแจ้งเตือนและป้องปรามรถบรรทุกหนักที่ยังคงลักลอบข้ามสะพานในช่วงกลางคืนอย่างเด็ดขาด เพราะอาจเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้สะพานทรุดตัวเพิ่มขึ้นจนถึงขั้นวิกฤต อีกทั้งได้มอบหมายให้แขวงทางหลวงชนบทยโสธร ตรวจวัดการทรุดตัวของสะพานอย่างต่อเนื่องและรายงานผลให้จังหวัดและประชาชนทราบเป็นระยะ








