รมว.แรงงาน ตอกกลับ “ธนาธร” หยุดทำลายประเทศ หลังบิดเบือนกลไกร่างกฎหมายแรงงาน พร้อมสอนมวยหากรับข้อเสนอ ผู้ประกอบการเจ๊งแน่

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ปัดตกร่างกฎหมายคุ้มครองสิทธิแรงงาน ฉบับอนาคตใหม่ ว่า นายกฯ ไม่ได้เป็นคนปัดเรื่องนี้ตก เพราะตามกระบวนการพิจารณา กฎหมายต่างๆ จะต้องให้หน่วยงานที่รับผิดชอบดูความเป็นไปได้ และความเหมาะสมคือ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานของกระทรวงแรงงาน เป็นหน่วยงานทำความเห็น และหลังจากการตรวจสอบพบว่า ข้อเสนอ 3 ข้อที่ นายธนาธร อ้างยังไม่เหมาะสมที่จะทำในเวลานี้ ไม่สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจของประเทศ และ เป็นเรื่องของความสามารถการแข่งขันทางการค้าของไทยกับต่างประเทศ ยิ่งในสภาวะการระบาดของโควิด-19 ทำให้ผู้ประกอบการอยู่ในภาวะประคองธุรกิจให้อยู่รอด และสามารถรักษาการจ้างงาน และต้องมองภาพรวมในการลงทุน

รมว.แรงงาน แจงว่า สำหรับข้อเสนอ นายธนาธร 1.ให้แรงงานทำงาน 5 วัน และหยุด 2 วัน ในอาเซียนมี 9 ประเทศ รวมทั้งไทยใช้แนวทางทำงาน 6 วัน และหยุด 1 วัน โดยอาศัยบริบทเศรษฐกิจแต่ละประเทศ มีเพียงประเทศสิงคโปร์เท่านั้นที่ทำงาน 5 วัน และหยุด 2 วันเท่านั้น ส่วนผู้ประกอบการใดจะหยุดเพิ่มเติมเป็นสิทธิ์ของแต่ละบริษัท หรือความพร้อม และขึ้นอยู่กับการหารือกันระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง


2.เสนอให้ยกเลิกค่าจ้างรายวัน ให้เปลี่ยนเป็นค่าจ้างรายเดือน ซึ่งข้อเท็จจริงยังไม่เหมาะสมกับผู้ประกอบการ โดยเฉพาะประเภท SME ซึ่งเป็นแหล่งจ้างงานขนาดใหญ่ของประเทศไทยและประเทศภูมิภาคอาเซียน ได้ให้อิสระของภาคธุรกิจสามารถดำเนินธุรกิจได้ตามความเหมาะสม แต่อย่างไรก็ตาม ต้องจ่ายไม่น้อยกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ภายใต้คณะกรรมการค่าจ้างที่กำหนดไว้

3.เสนอให้วันลาคลอดจาก 90 วัน เป็น 180 วัน และสามารถเลือกให้ พ่อ แม่ หรือคู่ชีวิตใช้วันลาได้นั้น ก็ไม่เหมาะสม เพราะวัตถุประสงค์ของการลาคลอด คือให้มารดาได้พักผ่อนและดูแลร่างกายตัวเอง หลังคลอดบุตร และให้ลูกที่เกิดมาได้ดื่มน้ำนมของมารดา ตามมาตรฐานที่ทั่วโลกให้การยอมรับ แต่หากทำตามที่นายธนาธร ระบุไว้ อาจจะส่งผลเสียต่อมารดาและบุตร ส่วนการเสนอให้หยุดจาก 90 วัน เป็น 180 วัน อาจเป็นเหตุให้สตรีหางานทำยากขึ้น และจะเกิดการเลือกปฏิบัติในการรับลูกจ้าง หรือ กรณีสตรีคลอดบุตรพร้อมๆ กัน และต้องหยุดเป็น 180 วัน ทำให้มีผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ อาจจะต้องปิดกิจการ และเลิกลงทุนในประเทศไทย

อยากฝากไปถึง นายธนาธร ว่า จะให้ความคิดเห็นอะไร ต้องดูข้อเท็จจริง ตรรกะความเป็นจริง มิใช่หวังแต่เล่นการเมือง หวังแต่หาเสียง พูดเอามัน โดยไม่สนใจผลกระทบที่ตามมาเป็นลูกโซ่ ขอให้หยุดพฤติกรรมนี้เสียที เพราะที่ผ่านมา ประเทศไทยก็บอบช้ำจากข้อมูลบิดเบือนแบบนี้มาเยอะมากพอแล้ว ควรจะเอาสมอง เอาเวลาคิดสร้างสรรค์ดีกว่า ถ้าบิดเบือนแบบนี้จะทำลายเศรษฐกิจของประเทศ โชคดีที่ประเทศไทยไม่มีนายกรัฐมนตรีอย่างนายธนาธร มิเช่นนั้นคงต้องปิดประเทศ เพราะเศรษฐกิจเจ๊งแน่นอน คิดแต่จะหาเรื่องรัฐบาลโดยไม่สนใจประเทศจะเสียหายอย่างไร” นายสุชาติ กล่าว

.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง