รัฐคุมเข้มผู้ป่วยโควิดให้ปฏิบัติตัวตามมาตรการกักตัวใน รพ.สนาม

สาธารณสุข และ กทม. เร่งกำชับเจ้าหน้าที่คุมเข้มผู้ป่วยติดเชื้อโควิดกักตัวใน รพ.สนาม ห้ามรวมกันทำพฤติกรรมไม่เหมาะสม และให้ปฏิบัติตามมาตรการกักตัวอย่างเข้มงวด ยืนยันมีมาตรการดูแลผู้ป่วยที่ได้มาตรฐาน

นายแพทย์ณรงค์ สายวงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงข้อวิจารณ์พฤติกรรมไม่เหมาะสมของผู้ป่วยกักตัวใน รพ.สนามจังหวัดเชียงใหม่ ที่นั่งจับกลุ่มบนเตียงเดียวกัน ไม่เว้นระยะห่าง ไม่สวมหน้ากากอนามัย และเล่นการพนันว่าทางพื้นที่ได้ตรวจสอบและจะได้เข้มงวดมากขึ้น รวมทั้งขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ตำรวจสแกนของฝาก หากพบสิ่งผิดกฎหมายจะได้ดำเนินการทางกฎหมายต่อไป

นอกจากนี้ เนื่องจากกลุ่มผู้ป่วยกักตัวที่ รพ.สนาม จังหวัดเชียงใหม่ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเพื่อนที่สนิทกัน การพูดคุยเป็นกลุ่มจึงเกิดขึ้นได้ ต่างจากโรงพยาบาลสนามทั่วไปที่มาจากพื้นที่ต่างกัน อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขจะได้นำมาเป็นข้อสังเกตกับโรงพยาบาลสนามในสังกัดทั้งส่วนกลางและภูมิภาค รวมทั้งหน่วยงานภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรุงเทพมหานคร กองทัพ องค์กรปกครองท้องถิ่น ภาคเอกชน เพื่อเน้นย้ำผู้ติดเชื้อที่เข้ารับการรักษาและสังเกตอาการในโรงพยาบาลสนาม ให้ปฏิบัติตนถูกต้อง เหมาะสม เมื่ออยู่ในโรงพยาบาลสนามและจะได้สื่อสารกับประชาชนเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องอย่างต่อเนื่อง

นายแพทย์ณรงค์ ระบุว่า โรงพยาบาลสนามเป็นสถานที่ที่นำผู้ป่วย ซึ่งได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อแล้ว เข้ามารักษาและสังเกตอาการ ซึ่งผู้ติดเชื้อจะมีอาการน้อยหรือไม่มีอาการ จะได้รับการดูแลตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุขและตามมาตรฐานของโรงพยาบาลสนาม ภายใต้การดูแลของแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ ซึ่งผู้ติดเชื้อทุกรายจะได้รับการดูแลติดตามอาการอย่างสม่ำเสมอ หากผู้ติดเชื้อมีอาการเปลี่ยนแปลงหรือมีอาการรุนแรงมากขึ้น เช่น เริ่มไอ มีความเสี่ยงฟุ้งกระจายเชื้อ จะประเมินและอาจให้กลับไปอยู่ในโรงพยาบาลหลัก

ส่วนการปฏิบัติตัวของผู้ติดเชื้อที่นอนพักรักษาในโรงพยาบาลสนาม แม้จะเป็นผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการหรือมีอาการน้อย ยังต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันตนเองอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ การสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง หมั่นล้างมือ ขอให้หลีกเลี่ยงกิจกรรมการรวมกลุ่มระหว่างกันอย่างใกล้ชิด แม้จะไม่ทำให้เกิดการติดเชื้อเพิ่ม เนื่องจากเป็นผู้ติดเชื้ออยู่แล้ว แต่หากคลุกคลีกันมากเกินไป อาจมีการฟุ้งกระจายของเชื้อเพิ่มขึ้น

ด้านนายสุขสันต์ กิตติศุภกร ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร ชี้แจงในประเด็นเดียวกันว่า โรงพยาบาลสนามทุกแห่ง ของกรุงเทพมหานครมีแนวทางการจัดการทั้งความปลอดภัยและการป้องกันการแพร่เชื้อมาตรฐานเดียวกับโรงพยาบาลหลัก โดยจะรับดูแลผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการ หรือมีอาการเล็กน้อย หากมีอาการเปลี่ยนแปลงจะส่งไปรักษาในโรงพยาบาลหลัก รวมทั้งรองรับผู้ป่วยที่รักษาในโรงพยาบาลหลักและมีอาการดีขึ้นแล้ว ให้ครบระยะเวลากักกันโรค

ในโรงพยาบาลสนามได้มีการวางระบบรักษาความปลอดภัยและห้ามผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าในสถานที่ และมีการติดตามตรวจสอบก่อนออกจากพื้นที่ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ นอกจากนี้ ได้กำหนดแนวทางการปฏิบัติของผู้ป่วยโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ได้แก่ ต้องอยู่ภายในหอพักผู้ป่วย ห้ามออกจากห้องโดยเด็ดขาด สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่ในโรงพยาบาลสนาม ห้ามบ้วนเสมหะ หรือน้ำลายในถังขยะ เสื้อผ้าใส่ลงถังผ้าเปื้อน และปิดฝาให้เรียบร้อย ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์บ่อย ๆ ไม่เดินพลุกพล่าน จับกลุ่มเสวนา และเข้าไปในเขตปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ไม่อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมทุกกรณี แต่สามารถนำของเยี่ยมฝากไว้ได้ตามเวลาและสถานที่ที่โรงพยาบาลกำหนด ห้ามถ่ายภาพ หรือโพสต์ข้อความที่เกี่ยวข้องลงบนสื่อสังคมออนไลน์ขณะรักษาตัวก่อให้เกิดความเสียหาย ห้ามสูบบุหรี่ เสพติดของมึนเมา และการพนัน

ขณะเดียวกัน กรุงเทพมหานครยังคงมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 อย่างเข้มข้น พร้อมทั้งพ่นฉีดฆ่าเชื้อโรคอย่างสม่ำเสมอภายในโรงพยาบาลสนาม และขอให้ผู้ป่วยโควิด-19 เตรียมพร้อมสิ่งที่จำเป็นสำหรับการมาอยู่ที่โรงพยาบาลสนาม ได้แก่ เสื้อผ้า จำนวน 4-5 ชุด หรือพอดีกับจำนวนที่เข้าพัก 14 วัน ของใช้ในกิจวัตรประจำวัน เช่น สบู่ แชมพู โฟมล้างหน้า แปรงสีฟัน และอื่น ๆ ที่จำเป็น โดยเฉพาะผ้าอนามัยสำหรับผู้หญิง ยารักษาโรคประจำตัว รวมทั้งข้อมูลประวัติการรักษาจากโรงพยาบาลเดิม (ถ้ามี) โทรศัพท์มือถือ สายชาร์จ ใช้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันไลน์ เพื่อใช้สำหรับติดต่อหอผู้ป่วยในการสื่อสารขณะรักษาตัวอยู่ภายในโรงพยาบาลสนาม พร้อมทั้งขอความร่วมมือผู้ป่วยปฏิบัติตามแนวทางที่กำหนดอย่างเคร่งครัด เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อโควิด-19

ข่าวที่เกี่ยวข้อง