จากศาสตร์พระราชาและทฤษฏีการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริกว่า 40 ทฤษฎีที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรพระราชทานไว้ให้ในการแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ได้รับการสืบสาน รักษา ต่อยอดตามพระราชปณิธานพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยได้พระราชทานโครงการ โคก หนองนา แห่งน้ำใจและความหวัง เพื่อให้เกิดประโยชน์สุขแก่พสกนิกรชาวไทย

โคก หนอง นา คุณภาพชีวิตหลักทฤษฎีใหม่
โคก หนอง นา โมเดล รูปแบบของการพัฒนาพื้นที่เพื่อพึ่งพาตนเอง ที่ขับเคลื่อนโดยกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ผ่านโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์ “โคก หนอง นา โมเดล” งบประมาณกว่า 4 พันล้านบาท จากเงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ที่รัฐบาลอนุมัติ เมื่อปี 2563 ถูกนำมาใช้ดำเนินการในพื้นที่ 76 จังหวัด 575 อำเภอ 3,246 ตำบล 25,179 ครัวเรือน เพื่อนำมาแก้ไขปัญหาฟื้นฟูเศรษฐกิจและชุมชนให้เป็นรูปธรรมและยั่งยืนกระจายไปยังครัวเรือนต่างๆ และยังเพิ่มภูมิความรู้นำไปพัฒนาต่อยอดพื้นที่ต้นแบบตามหลักทฤษฎีใหม่ ทำให้เกิดการสร้างงานสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร แรงงานและบัณฑิตจบใหม่ กลุ่มแรงงานที่อพยพกลับท้องถิ่นและชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ในช่วงวิกฤติการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19)

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า ได้น้อมนำเอาทฤษฏีใหม่มาประยุกต์สู่โคก หนอง นา โมเดล งบประมาณกว่า 4,700 ล้านบาท มีเกษตรกรนำที่ดินมาเข้าร่วมโครงการกว่า 25,000 ครัวเรือน และมีบัณฑิตตกงาน เกษตรกรตกงานที่ไม่มีงานทำมาเป็นลูกจ้างกว่า 9,000 คน ซึ่งโครงการจ้างงานนี้มีระยะเวลาจ้างเพียง 1 ปี เงินเดือน ๆ ละ 9000 บาท ทำให้เกิดการเรียนรู้พัฒนาตนเอง และได้เงินเดือนเอาไปเลี้ยงดูครอบครัว
นอกจากนี้งบประมาณที่ได้รับยังได้นำไปใช้ในอีกหลายกิจกรรม เช่น ฝึกอบรมให้เข้าใจเรื่องกสิกรรมธรรมชาติ คือการเลี้ยงดิน ให้ดินเลี้ยงพืช เรื่องทฤษฎีใหม่ หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สร้างพื้นที่เรียนรู้ชุมชนต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิต กระตุ้นการบริโภคภาคครัวเรือน พัฒนามาตรฐานผลผลิต การแปรรูป การตลาด พัฒนาระบบ Digital รองรับ Local Economy ด้วยการสร้างระบบโปรแกรมและระบบฐานข้อมูล ซึ่งผู้สมัครใจเข้าร่วมโครงการต้องผ่านการอบรมเรียนรู้ระบบเศรษฐกิจพอเพียงและไปพัฒนาพื้นที่ให้เป็นศูนย์เรียนรู้ชุมชนต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตในระดับตำบลและครัวเรือนอย่างน้อย 5 ปี เพื่อให้คนในชุมชนสามารถดำรงชีพพัฒนาตนเองด้วยการพึ่งพาตนเองตามหลักทฤษฏีใหม่ โดยมีงบประมาณสนับสนุน ครัวเรือนต้นแบบขนาด 1 ไร่ จำนวน 69,890 บาท ขนาด 3 ไร่ จำนวน 128,690 บาท ขนาด 10 ไร่ จำนวน 1,436,490 – 2,030,990 บาท ขนาด 15 ไร่ จำนวน 1,783,490 -2,377,990 บาท

เกษตรกรตัวอย่าง
นายอดุลย์ วิเชียรชัย ประธานศูนย์เรียนรู้สัมมาชีพชุมชน ต.คลองหก อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เกษตรกรที่ประสบความสำเร็จจากการทำโคก หนอง นา โมเดล บอกว่า เข้าร่วมโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์ “โคก หนอง นา โมเดล” ของกรมการพัฒนาชุมชน เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2563 ซึ่งกิจกรรมแรกที่ทำคือการเข้าร่วมอบรมหลักสูตรพื้นที่เรียนรู้ชุมชนต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิต (Community Lab Model for quality of life : CLM) ที่จังหวัดนครนายก และได้รับการคัดเลือกให้เป็นต้นแบบในการทำโคก หนอง นาโมเดล และพื้นที่ต้นแบบ ในพื้นที่ 10 ไร่ ของตนเอง โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากโครงการตามขนาดของพื้นที่ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งฐานการเรียนรู้ 9 ฐาน และการจ้างคนตกงาน ผู้ว่างงาน ผู้ที่ประสบภาวะโควิด เกษตรกร นักศึกษาจบใหม่ ผู้พ้นโทษจากเรือนจำ เข้ามาทำงานในพื้นที่โคก หนอง นา สำหรับพื้นที่ตนเองมีทีมงานมาทำงาน 10 คน เรียกว่า นักพัฒนาพื้นที่ต้นแบบโคก หนอง นาโมเดล (นพต.) ได้รับค่าจ้างเดือนละ 9,000 บาท ระยะเวลา 1 ปี พัฒนาพื้นที่ต้นแบบร่วมกับเจ้าของแปลง ฝึกการเป็นวิทยากร ฝึกให้ตนเองเป็นต้นแบบจะได้นำองค์ความรู้ที่ได้จากการเรียนรู้จากฐานทั้ง 9 ฐาน ไปใช้เป็นอาชีพเสริมหรืออาชีพหลัก ไปพัฒนาครัวเรือน และชุมชนของตนเอง
โครงการนี้เริ่มจากพื้นที่ 10 ไร่ ไม่เกี่ยวกับพื้นที่เดิมที่ทำมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่สามารถทำให้เห็นได้ว่าการทำโคก หนอง นา โมเดลสามารถประสบความสำเร็จได้จริง ทุกคนที่เข้ามาจะได้เห็นจากพื้นที่ที่ทำมาก่อนตั้งแต่ปี 2559 และจะได้เห็นพื้นที่ที่กำลังจะวางแผนทำในพื้นที่ 10 ไร่ ซึ่งภาพ ณ ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ เพิ่งจะ 5 เดือน มีแหล่งกักเก็บน้ำเป็นของตัวเอง ทั้งหมด 5 หนองน้ำ มีแปลงนา และมีหญ้าแฝก น้ำเพิ่งจะผันเข้ามา หากจะให้เกิดความมั่นคงทางอาหารจริง ๆ จะใช้เวลา 2 ปี ให้เห็นเป็นรูปธรรมทั้งไม้ 5 ระดับ ตั้งแต่ไม้เนื้อแข็ง ไม้ยืนต้น ไม้เลื้อย พืชผัก และไม้กินหัวใต้ดิน ออกดอก ออกผล และการเลี้ยงสัตว์ ที่จะสร้างรายได้ให้กับตัวเอง และชุมชน

อดุลย์ ฯ บอกอีกว่า โคก-หนอง-นา โมเดล ของกรมการพัฒนาชุมชน ไม่ได้เน้นรูปแบบตายตัว ซึ่งการออกแบบและการจัดสรรแบ่งพื้นที่สามารถทำตามความต้องการของเจ้าของพื้นที่ได้ ทำให้สิ่งที่ได้มาประชาชนรู้สึกพอใจ และมีความสุข เป็นโครงการ ที่มองเห็นถึงความยั่งยืนในชีวิตจริง ๆ และทุกองค์ความรู้ที่ได้รับการอบรมเป็นองค์ความรู้ที่สามารถนำมาทำได้จริง และนำมาเป็นภูมิคุ้มกันให้กับตัวเราได้จริง ๆ เช่น ภาวะ โควิด 19 เรามีแหล่งอาหารเป็นของเราเอง การป้องกันก็มีพืชสมุนไพร และมีแนวทาง ในการปฏิบัติ โครงการนี้จึงตอบโจทย์ระยะยาว ทำแล้วไม่ได้หายไปเลย แต่ทำให้ชุมชนมีความยั่งยืน
จะเห็นได้ว่างบประมาณทุกบาททุกสตางค์ที่ได้รับการจัดสรรจากโครงการนี้ ถูกทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดและเกิดความยั่งยืนในชุมชน ในการต่อยอดโครงการโคก หนองนา โมเดลตามหลักทฤษฎีใหม่พอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาสืบสาน. รักษา ต่อยอด ปรับใช้ให้เหมาะสมกับยุคสมัยใหม่จนประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้