สาธารณสุขเร่งจัดหาวัคซีนให้ได้ 100 ล้านโดส ให้เพียงพอต่อการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19

จากกรณีที่ “กลุ่มหมอไม่ทน” ขอให้ผู้สนับสนุนลงชื่อในแคมเปญ “หยุดเตะถ่วงวัคซีนทางเลือก ก่อนสายพันธุ์อินเดียระบาด” ผ่านเว็บไซต์ Change.org โดยระบุว่าประเทศไทยมีการฉีดวัคซีนครบทั้งสองเข็มให้แก่ประชาชนเพียง 1-2% ของประชากรทั้งหมด โดยวัคซีนที่ได้รับรองมีเพียงวัคซีนของ Sinovac และ AstraZeneca และจำนวนวัคซีนที่รัฐบาลจองมาทั้งหมด ยังไม่เพียงพอ

นายแพทย์ณรงค์ สายวงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงว่า รัฐบาลได้มอบให้กระทรวงสาธารณสุขจัดหาวัคซีนฉีดให้กับประชาชน เพื่อควบคุมโรค ลดอัตราป่วยตาย ตามความสมัครใจ โดยไม่คิดมูลค่า ซึ่งขณะนี้ทั่วโลกมีความต้องการวัคซีนโควิดสูง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข ได้ให้สั่งซื้อวัคซีนซิโนแวคมาใช้ในระยะเร่งด่วน ก่อนที่จะได้รับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ตามแผนหลักในเดือนมิถุนายน จำนวน 6 ล้านโดส เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด 19 ในหลายจังหวัดที่เกิดการแพร่ระบาด ซึ่งช่วยลดการป่วยรุนแรงและเสียชีวิต และปกป้องกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข บุคลากรด่านหน้า โดยตั้งแต่เดือน มี.ค.-พ.ค. 64 ได้ส่งวัคซีนกระจายไปยังจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศแล้ว 2.6 ล้านโดส ฉีดไปแล้ว 2.5 ล้านเข็ม เมื่อเริ่มฉีดวัคซีนแผนหลักในเดือนมิถุนายน จะสามารถฉีดได้มากขึ้นหลายเท่าอย่างรวดเร็ว ซึ่งมีจุดบริการฉีดวัคซีนทั้งในสถานพยาบาล และจุดบริการที่ประชาชนเข้าถึงสะดวกทั่วประเทศ

รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สำหรับวัคซีนที่รัฐบาลสั่งซื้อนั้น นอกจากวัคซีนซิโนแวคและแอสตร้าเซนเนก้าที่มีจำนวนรวม 66 ล้านโดส แต่เพื่อให้สามารถฉีดวัคซีนครอบคลุมประชาชนมากขึ้น เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ในประเทศ ได้ตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนการจัดหาวัคซีนโควิด-19 เพื่อประเทศไทย มีศาสตราจารย์คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร เป็นประธาน และผู้เชี่ยวชาญด้านวัคซีนจากองค์กรภาครัฐและเอกชน ร่วมเป็นคณะกรรมการ มีข้อสรุปว่าจะฉีดวัคซีนโควิด 19 ให้ครอบคลุมคนในประเทศเพิ่มขึ้นให้ได้ 100 ล้านโดส มอบให้ภาครัฐ โดยกระทรวงสาธารณสุขและองค์การเภสัชกรรม จัดหาวัคซีนเพิ่มเติมจากหลายบริษัท เพื่อฉีดให้กับประชาชน


ข่าวที่เกี่ยวข้อง