นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวในรายการ NBT รวมใจสู้ภัยโควิด-19 ถึงกรณีการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า การเฝ้าระวังการกลายพันธุ์ในประเทศไทย แบ่งเป็น 2 ระดับ คือ ระดับ Variant of Interest สายพันธุ์ที่อยู่ระหว่างการพิสูจน์และจับตาเฝ้าระวัง มีการเปลี่ยนแปลงตัวเองแต่ไม่มีความรุนแรง และระดับที่ 2 คือ ระดับ Variant of Concern สายพันธุ์น่ากังวล มีหลักฐานให้เห็นถึงการแพร่เชื้อที่ง่ายขึ้น มีการแบ่งตัว เปลี่ยนแปลงและทำให้มีผู้เสียชีวิตมากขึ้น เช่น สายพันธุ์อังกฤษ แอฟริกาใต้ และที่ยังมาไม่ถึง คือสายพันธุ์แคลิฟอร์เนีย
อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ระบุว่า จุดเริ่มต้นที่ตลาดกลางกุ้ง มหาชัย จ.สมุทรสาคร พบการระบาดจากแรงงานเมียนมาร์ เก็บตัวอย่างแล้วไปเทียบกับข้อมูลไวรัสที่อยู่ในระบบพบเส้นทางมาจากอินเดีย ผ่านมาทางบังคลาเทศเข้าที่เมียนมาร์ สุดท้ายมาที่มหาชัย ต่อมาระบาดที่ทองหล่อและกระจายไปทั่วประเทศ ได้สุ่มตรวจผู้ป่วยที่ติดเชื้อ ประมาณ 1,300 ตัวอย่าง พบว่า 1,200 กว่าตัวอย่าง หรือ 93% เป็นสายพันธุ์อังกฤษ เพราะติดง่ายและแพร่เชื้อเร็ว เมื่อพบกลุ่มก้อนการระบาดใหม่ เช่น แคมป์คนงานก่อสร้างที่หลักสี่ พบเป็นสายพันธุ์อินเดีย ยังต้องเก็บข้อมูลให้มากพอเพื่อประเมินความรุนแรง ล่าสุดที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ตรวจพบสายพันธุ์แอฟริกาใต้ 3 รายแรก และพบอีก 8 ราย พร้อมขอตัวอย่างเชื้อจาก จ.สงขลา จ.พัทลุง พบว่าเป็นสายพันธุ์อื่นๆ ซึ่งยังไม่ได้ระบาดออกนอกพื้นที่
อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ย้ำว่า ผู้ติดเชื้อทางภาคใต้ รักษาหายแล้วและมีผู้อาการดีขึ้นเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ อาการจะหนักหรือไม่หนักส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับสุขภาพส่วนตัว ทุกๆ สายพันธุ์ในไทยมีอัตราการเสียชีวิตต่ำกว่า 1 % แต่ต้องเฝ้าระวังอย่างเต็มที่ การจะกลายพันธุ์ได้ต้องมีผู้ติดเชื้อจำนวนมากๆ เป็นระดับวันละหมื่นๆ คน จะเกิดในทุก ๆ วงรอบของการเพิ่มจำนวนไวรัส การฉีดวัคซีนให้เร็ว ครอบคลุมและได้ตามเป้าหมายอย่างน้อย 50 % ช่วยเพิ่มภูมิต้านทานหมู่และลดการกลายพันธุ์ได้
ทางกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้พัฒนาระบบตรวจพันธุกรรมได้ 300 กว่าตัวอย่างต่อสัปดาห์ แสดงว่าการเก็บตัวอย่างเพื่อดูสายพันธุ์จะมีความครอบคลุมมากขึ้น ถ้าประเทศไหนตรวจได้เกิน 150 ตัวอย่าง ถือว่าได้ตามมาตรฐานโลก อย่ากังวลเรื่องการกลายพันธุ์มากจนเกินไป บุคลากรทางการแพทย์ติดตามสถานการณ์ตลอด เวลา ไปรับวัคซีนและดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัด ด้วยการล้างมือ ใส่หน้ากาก เว้นระยะห่าง ยังเป็นสิ่งจำเป็นควบคู่กัน
