พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1) เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ให้ความมั่นใจมีการจัดสรรงบประมาณเพื่อรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ทั้งจากงบประมาณประจำและงบประมาณพ.ร.บ. เงินกู้ต่างๆ ยืนยัน ไม่มีปัญหาอย่างแน่นอนและรัฐบาลทำอย่างเต็มที่ด้วยความโปร่งใส สำหรับการจัดหาวัคซีนโควิด-19 ในเดือนมิถุนายน ยังคงเป็นตามแผน
นายกรัฐมนตรี ยืนยัน ถึงการบริหารจัดการวัคซีนว่า รัฐบาลมีคณะกรรมการดำเนินอย่างต่อเนื่องทั้งการจัดหา การนำเข้าแบบรัฐ-รัฐ รวมทั้งวัคซีนทางเลือก โดยมีทั้งแผนหลัก แผนรองและแผนฉุกเฉินในบริหารจัดการวัคซีน ขณะที่โลกยังคงมีความต้องการวัคซีนที่มากขึ้นในหลายประเทศ ซึ่งต้องมีการบริหารจัดการวัคซีนของบริษัทผู้ผลิตด้วย ขณะเดียวกันไทยก็จะได้รับการถ่ายทอดการผลิตวัคซีนจากหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตวัคซีนโควิด-19 ด้วย ซึ่งคาดว่าในช่วงเวลาที่กำหนดไปแล้วจะไม่มีปัญหาเรื่องการบริหารจัดการวัคซีน ทั้งวัคซีนที่จัดหาโดยรัฐ และวัคซีนทางเลือกที่ดำเนินการได้แล้วในขณะนี้ อย่างไรก็ตามการนำเข้ายังต้องผ่านช่องทางรัฐ-รัฐ

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีปฏิเสธข้อกล่าวหางบประมาณกระทรวงกลาโหมมากกว่ากระทรวงสาธารณสุข โดยชี้แจงว่า งบประมาณด้านสาธารณสุข ประกอบด้วย งบประมาณของกระทรวงสาธารสุข ยังมีกองทุนภายใต้สังกัดกระทรวงสาธารณสุขอีก 3 กองทุน ประกอบด้วย กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กองทุนการแพทย์ฉุกเฉิน กองทุนภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย มีจำนวน 141,741 ล้านบาท และงบประมาณ 153,940.47 รวมงบประมาณด้านสาธารณสุข ทั้งสิ้น 295,681 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2564 ลดลงเพียงแค่ 5,930 ล้านบาทร้อยละ 1.7 งบประมาณขณะที่ 2 ปีที่ผ่านมาได้มีการปรับลดงบประมาณกระทรวงกลาโหมกว่า 10,000 ล้านบาท แต่ยังคงมีงบประมาณผูกพันที่ต้องดำเนินการต่อในปีงบประมาณ 2565
นายกรัฐมนตรี ยืนยัน รัฐบาลบริหารจัดการวัคซีนทั้งการกระจายวัคซีนและการให้บริการฉีดวัคซีน ด้วยความโปร่งใส ทั่วถึงและเป็นธรรม ยืนยันในเดือนมิถุนายน จะมีวัคซีนเข้ามาอย่างเพียงพอทั้งวัคซีนที่รัฐบาลจัดหาและวัคซีนทางเลือก ซึ่งการนำเข้ายังต้องติดต่อผ่านสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) โดยต้องเป็นบริษัทที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นผู้แทนบริษัทผู้ผลิตวัคซีนที่ถูกต้อง เพื่อรับรองมาตรฐานก่อนนำเข้า ขอให้ความมั่นใจว่ารัฐบาลได้การบริหารงบประมาณด้วยการพิจารณาอย่างเข้มงวด รัดกุม พร้อมรับฟังทุกข้อมูล “วันนี้ไม่มีการทุจริตในรัฐบาลผม” นายกรัฐมนตรีกล่าวย้ำ