นายสมยศ พุ่มน้อย รองอธิบดีฝ่ายการทะเบียนและเทคโนโลยีสารสนเทศ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ชี้แจงประเด็น “ผู้พิการทางสายตาที่ไม่มีบัตรประชาชน ไม่สามารถเข้ารักษาโควิด-19 ได้” ว่า การขอมีบัตรประจำตัวประชาชนต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทยอายุตั้งแต่ 7 ปีบริบูรณ์ แต่ไม่เกิน 70 ปีบริบูรณ์ และมีชื่อในทะเบียนบ้าน บุคคลอายุเกิน 70 ปี และบุคคลที่ได้รับยกเว้นตามกฎหมาย เช่น บุคคลพิการ จะขอมีบัตรได้ ปัจจุบันมีผู้พิการขึ้นทะเบียนคนพิการกับกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ จำนวน 1,985,002 คน และมีบัตรประจำตัวประชาชนแล้ว จำนวน 1,964,340 คน

อย่างไรก็ดี ปค. (ศูนย์ประสานงานเพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาคนไทยที่มีปัญหาสถานะทางทะเบียน) ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อให้ความช่วยเหลือโดยเร็ว เนื่องจากผู้พิการทางสายตาเป็นกลุ่มคนเปราะบาง โดยมีแนวทาง ดังนี้
1.กรณีที่ตรวจสอบแล้วพบว่า เป็นบุคคลที่ยังไม่มีรายการในทะเบียนบ้าน (ท.ร.14) ให้แก้ไขปัญหาเชิงรุก โดยให้นายทะเบียนเดินทางไปรับคำร้องในพื้นที่ ตรวจสอบพยานหลักฐานและสอบสวนพยานบุคคลที่เกี่ยวข้อง เพื่อเพิ่มชื่อและรายการบุคคลเข้าในทะเบียนบ้าน กรณีที่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าเป็นบุคคลสัญชาติไทย
2.กรณีที่แก้ไขปัญหาตามข้อ 1 แล้ว หรือบุคคลดังกล่าวเป็นผู้ที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านอยู่แล้วให้นายทะเบียนตรวจสอบข้อมูลและหลักฐานที่เกี่ยวข้องและประสานให้หน่วยบริการเคลื่อนที่ (Mobile Unit) ออกไปให้บริการจัดทำบัตรประจำตัวประชาชนในพื้นที่กรณีเร่งด่วน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

ทั้งนี้ ปค. (ศูนย์ประสานงานฯ) ได้ติดต่อกับนายพัฒน์ธนชัย สระกวี นายกสมาคมประชาคมคนตาบอดไทย เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2564 โดยได้รับการแจ้งว่า ไม่มีข้อมูลของบุคคลที่ประสบปัญหาดังกล่าว ทราบเพียงแต่ว่าเป็นบุคคลที่ไม่เคยแจ้งการเกิดและไม่มีชื่อในทะเบียนบ้าน ส่วนข้อมูลอื่นๆ อาทิ ชื่อตัว-ชื่อสกุล ภูมิลำเนาที่อยู่อาศัย สถานะของครอบครัว ฯลฯ อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลและจะแจ้งให้ ปค.ทราบ
ทั้งนี้ ปค. (ศูนย์ประสานงานฯ) จะได้ติดตามเรื่องและให้ความช่วยเหลือบุคคลที่มีปัญหาสถานะบุคคลดังกล่าวเป็นการเร่งด่วนต่อไป
