พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ชี้แจงประเด็นข้อวิจารณ์การบริหารจัดการแคมป์คนงานว่า ปัจจุบันการควบคุมการเข้า – ออก คนงานในแคมป์ก่อสร้างในพื้นที่ต่าง ๆ นั้น ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.) ได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดที่ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ประกาศไว้ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคฯ ที่อาจกระจายไปสู่บุคคลที่อยู่ภายนอกและแพร่ระบาดในวงกว้าง กรณีที่พบผู้ติดเชื้ออยู่ในแคมป์นั้น ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างชัดเจนคือแยกผู้ติดเชื้อออกจากลุ่มคนงานอื่นๆ และนำไปรักษาต่อไป ซึ่งคนงานในกลุ่มที่มีความใกล้ชิดและมีความเสี่ยง จะได้รับการดูแลจากเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบการควบคุมโรคฯ ในพื้นที่นั้นๆ จึงไม่สามารถปล่อยให้คนงานออกนอกพื้นที่ได้เองโดยไม่ได้รับอนุญาต

โฆษกกระทรวงกลาโหม ได้กล่าวย้ำว่า ขอให้พี่น้องประชาชนเข้าใจการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ที่ได้คำนึงถึงความปลอดภัยต่อส่วนรวมเป็นลำดับแรก ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของพี่น้องประชาชน ดังนั้น หากการปฏิบัติใดๆ ที่อาจเกิดความล่าช้าจะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นให้ดีที่สุดและรวดเร็วที่สุด ขอให้พี่น้องประชาชนโปรดเข้าใจและให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เพื่อให้สถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว
ขณะที่ นายประทีป ทรงลำยอง โฆษกกระทรวงแรงงาน ได้ชี้แจงประเด็นเดียวกันว่า ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.64 มีมติให้ปิดแคมป์คนงานก่อสร้างใน 6 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรสาคร สมุทรปราการ นครปฐม และงดเดินทางใน 4 จังหวัด ได้แก่ สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส เป็นเวลา 1 เดือน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19

กระทรวงแรงงานได้กำหนดมาตรการเยียวยาลูกจ้างในแคมป์คนงาน ดังนี้
1) จ่ายค่าชดเชย
กรณีเป็นผู้ประกันตนจะได้รับ 50 เปอร์เซ็นของค่าจ้าง (จ่ายประกันสังคมไม่ต่ำกว่า 6 เดือนใน 15 เดือน)
กรณีไม่เป็นผู้ประกันตน ขอความร่วมมือนายจ้างเป็นผู้จ่าย
2) ขอความร่วมมือนายจ้างสถานประกอบการดูแลเรื่องอาหารให้คนงานทั้ง 3 มื้อ
3) ตรวจคัดกรองโควิดเชิงรุกในแคมป์คนงาน หากพบเชื้อนำเข้าสู่การรักษา
4) ฉีดวัคซีนโควิด-19
5) ประเมินสถานการณ์ทุก 15 วัน
โฆษกกระทรวงแรงงาน ได้กล่าวอีกว่า นอกจากการขอความร่วมมือนายจ้างสถานประกอบการดูแลเรื่องอาหารแก่คนงานในแคมป์ทั้ง 3 มื้อแล้ว กระทรวงแรงงานได้ให้ความช่วยเหลือเรื่องอาหาร โดยขอรับบริจาคเครื่องอุปโภคบริโภคจากผู้ประกอบการรายใหญ่ เช่น บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป, บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร, บริษัทในเครือแสงทอง-อัครา เพื่อนำไปช่วยเหลือพี่น้องผู้ใช้แรงงานตามมาตรการปิดแคมป์คนงาน ซึ่งเบื้องต้นได้รับบริจาคปลากระป๋อง 90,000 กระป๋อง ไข่ไก่ 250,000 ฟองและนำไปมอบให้สมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อส่งต่อให้พี่น้องผู้ใช้แรงงานตามแคมป์ต่างๆ ต่อไป
