สธ.ระบุเอกสารการประชุมวัคซีนที่แชร์ในสื่อโซเชียลไม่ใช่ความเห็นอย่างเป็นทางการ

กรณีมีการเผยแพร่เอกสารการประชุมของคณะกรรมการด้านวิชาการตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 คณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค และคณะทำงานวิชาการด้านบริหารจัดการและศึกษาการให้บริการวัคซีน โดยประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ คือ ในที่ประชุมมีการพูดว่า หากนำวัคซีนไฟเซอร์เข็มที่ 3 มากระตุ้นบุคลากรที่ฉีดวัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม จะแสดงว่าซิโนแวคไม่มีประสิทธิภาพนั้น จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า เรื่องนี้จริงหรือไม่

นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ชี้แจงเรื่องนี้ว่า เอกสารดังกล่าว มิใช่รายงานสรุปฉบับจริงที่ฝ่ายเลขานุการ (กรมควบคุมโรค) เป็นผู้จัดทำ โดยในการประชุมมีวาระพิจารณาข้อหารือว่าหากมีวัคซีนไฟเซอร์จำนวนหนึ่งในระยะอันใกล้นี้ ควรนำมาใช้กับกลุ่มเป้าหมายใด จึงจะได้ประโยชน์สูงสุด ผู้เข้าประชุมได้อภิปรายข้อคิดเห็นอย่างหลากหลาย ทั้งข้อดี/ข้อด้อยเมื่อใช้กับกลุ่มเป้าหมายต่างๆ เป็นจำนวนมาก โดยวัตถุประสงค์ของการจัดประชุมเพื่อต้องการความเห็นทางวิชาการที่หลากหลาย นำข้อสรุปเสนอต่อคณะกรรมการชุดที่รับผิดชอบก่อนนำเสนอต่อ ศบค.เพื่อทราบ ให้ความเห็นชอบและนำไปปฏิบัติต่อไป ทั้งนี้ เอกสารดังกล่าวจัดทำขึ้นโดยมีการเลือกบันทึกความเห็นเฉพาะจากผู้เข้าร่วมประชุมบางส่วนและเลือกตัดมาบางช่วงบางตอน ทำให้ผู้อ่านที่มิได้รับทราบเนื้อหาทั้งหมดในภาพรวมและความเป็นมา อาจเข้าใจผิดหรือคลาดเคลื่อนไปได้

ที่ประชุมดังกล่าว ได้สรุปความเห็นว่า หากมีวัคซีนไฟเซอร์เข้ามาในจำนวนจำกัดในระยะเวลาอันใกล้นี้ ควรนำมาให้กลุ่มคนสูงอายุและหญิงตั้งครรภ์ตั้งแต่ 12 สัปดาห์ขึ้นไป โดยเฉพาะในพื้นที่กำลังมีการระบาดมากเป็นอันดับแรกและทยอยให้กลุ่มอื่นๆ เนื่องจากข้อมูลการระบาดในปัจจุบัน ผู้สูงอายุมีอัตราการเสียชีวิตและป่วยรุนแรงมากที่สุดและต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหอผู้ป่วยหนัก (ICU) จำนวนมาก หากเข้าขั้นวิกฤติ จะทำให้ระบบการดูแลรักษาพยาบาลประชาชน ไม่สามารถดำเนินการได้ ส่วนหญิงตั้งครรภ์ หากป่วยหนักจะกระทบถึง 2 ชีวิต เมื่อมีวัคซีนเพิ่มขึ้นจะจัดสรรให้บุคลากรทางการแพทย์และบุคคลกลุ่มอื่นๆ ต่อไป และให้มีการทบทวนศึกษาแนวทางที่เหมาะสมเพื่อเตรียมให้วัคซีนกระตุ้นภูมิต้านทานสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ ในเวลาที่เหมาะสมด้วย

อธิบดีกรมควบคุมโรค ได้กล่าวเสริมว่า สำหรับสรุปรายงานการประชุมฉบับจริง กรมควบคุมโรคซึ่งเป็นฝ่ายเลขานุการ อยู่ระหว่างดำเนินการ โดยมีขั้นตอนแจ้งเวียนร่างรายงานให้ผู้เข้าประชุมทั้งสามคณะได้ตรวจสอบความถูกต้องก่อนรับรองรายงานการประชุมอย่างเป็นทางการต่อไป

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข ขอยืนยันว่าเอกสารดังกล่าวไม่ใช่ความเห็นอย่างเป็นทางการของที่ประชุมและไม่ได้อยู่ในรูปแบบของเอกสารสรุปการประชุม เรื่องความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงานนั้น รองนายกฯ และรมว.สธ.พร้อมคณะผู้บริหาร ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลทางวิชาการ เพื่อออกแนวทางให้เหมาะสมและดีที่สุดต่อผู้ปฏิบัติงาน ส่วนการหารือและพิจารณาเรื่องวัคซีนนั้นเนื่องจากสถานการณ์วัคซีนเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา จึงต้องศึกษาวิจัยถึงประสิทธิภาพและประสิทธิผลของวัคซีนอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำไปปรับรูปแบบการใช้ให้เหมาะสม โดยคำนึงถึงประสิทธิผลความปลอดภัยของวัคซีนเป็นสำคัญ ซึ่งขณะนี้เป็นการใช้ในภาวะฉุกเฉิน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง