ศธ. ชี้ แท็บเล็ตเหมาะกับเด็กบางกลุ่ม เน้นใช้รูปแบบหลากหลาย

นายสุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ได้ชี้แจงประเด็น “ข้อเรียกร้องให้นำแท็บเล็ตพีซีมาใช้ในระบบการศึกษาของไทย ช่วงสถานการณ์โควิด-19” ว่า Tablet PC ได้จัดซื้อให้กับนักเรียนชั้น ป.1 ครั้งแรกในปี 2555 จำนวน 8 แสนเครื่องเศษ โดยกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเป็นผู้จัดซื้อและในปี 2557 ได้ประเมินผลการใช้ Tablet PC พบว่ามีประโยชน์ต่อการเรียนรู้ของนักเรียนและมีความพึงพอใจสูงในการใช้ Tablet PC ในการเรียนการสอน แต่สภาพปัญหาการใช้งานจนถึงปัจจุบันพบว่า Tablet PC อายุการใช้งานสั้น สื่อ Application มีน้อย ไม่เพียงพอในการจัดการเรียนรู้ของนักเรียน ระบบปฏิบัติการมีข้อจำกัดในการรองรับสื่ออิเล็กทรอนิกส์รูปแบบต่าง ๆ

งานวิจัยของ มศว.ประสานมิตร พบว่า Tablet PC เหมาะสมสำหรับนักเรียนระดับชั้น ป.4 ขึ้นไป กรณีจะจัดหา Tablet PC ให้นักเรียนในช่วงสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 เห็นควรจัดหาให้ระดับมัธยมศึกษาก่อนเป็นลำดับแรกเนื่องจากนักเรียนกลุ่มนี้ใช้รูปแบบการเรียนการสอนออนไลน์อยู่เดิมแล้ว ในส่วนระดับประถมศึกษายังมีการใช้รูปแบบการเรียนการสอนที่หลากหลาย ได้แก่ On – AIR On – Hand On – Demand นอกจากนี้ ยังมีรูปแบบจัดการเรียนการสอนทางไกลผ่านดาวเทียม (DLTV) ที่ช่วยสนับสนุนการเรียนรู้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เนื่องจากมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นผู้รับผิดชอบ

จากข้อมูลมีโรงเรียนที่จัดการเรียนแบบออนไลน์เต็มรูปให้กับนักเรียนจำนวน 7889 โรงเรียน คิดเป็นร้อยละ 22.5 ในสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นมีข้อจำกัดจากการใช้พีซีแท็บเล็ตในหลายด้าน ทั้งผู้ปกครองไม่สามารถจัดหาสัญญาณอินเทอร์เน็ต ต้องออกไปทำงานนอกบ้านนักเรียนต้องอยู่กับพีซี แท็บเล็ตโดยไม่มีผู้ดูแลกระตุ้นเตือนให้ผู้เรียนเรียนรู้ด้วยตนเองทำให้ขาดประสิทธิภาพ นักเรียนขาดการปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนและที่สำคัญสภาพพื้นที่ของที่อยู่อาศัยและภาวะเศรษฐกิจ

ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ได้กล่าวเน้นย้ำว่า กระทรวงศึกษาและสถานศึกษา คำนึงถึงการจัดการศึกษาด้วยรูปแบบที่ใช้ครอบครัวและผู้เรียนเป็นฐาน ทั้งนี้รูปแบบการจัดการเรียนการสอนจึงต้องหลากหลายตามความต้องการจำเป็น ทั้งนี้ต้องเลือกที่เหมาะสมกับบริบทของครอบครัวสภาพพื้นที่ สภาพเศรษฐกิจกิจและสังคมรวมถึงศักยภาพของผู้เรียนเป็นหลัก การจัดหา Tablet PC เพื่อสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ให้กับนักเรียนจึงมีความเหมาะสมและจำเป็นกับนักเรียนเพียงบางกลุ่มบางสถานศึกษาเท่านั้นซึ่งส่วนใหญ่นักเรียนที่เรียนในระบบออนไลน์สามารถใช้เครื่องมือที่มีอยู่แล้วในการเรียนรู้ผ่านระบบออนไลน์ที่สถานศึกษาดำเนินการไปแล้ว