คำสั่งจังหวัดภูเก็ต เรื่องการกำหนดมาตรการตรวจคัดกรองการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ต สำหรับคนไทยจากต่างจังหวัดหรือคนต่างชาติที่อาศัยในประเทศไทย

จากสถานการณ์การระบาดโรคโควิด-19 ทวีความรุนแรง จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่มีจำนวนมาก และแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง จังหวัดภูเก็ตจำเป็นต้องยกระดับความเข้มข้นของมาตรการป้องกันและควบคุมโรค โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต ตามมติที่ประชุมครั้งที่ 41/2564 เมื่อวันที่ 9 ก.ค.2564 จึงยกเลิกข้อ 4 ของคำสั่งจังหวัดภูเก็ตที่ 3491/2564 ลงวันที่ 25 มิ.ย.2564 และกำหนดมาตรการตรวจคัดกรองการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ต ตามมาตรการป้องกัรและควบคุมโรคติดเชื้อโดวิด สำหรับคนไทยจากต่างจังหวัดหรือคนต่างชาติที่อาศัยในประเทศไทย ดังต่อไปนี้

การเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ต

ข้อ 1.การเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ตของคนไทยจากต่างจังหวัด หรือคนต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย ทางด่านตรวจท่าฉัตรไชย ช่องทางน้ำ (ท่าเรือ) ทุกท่าในจังหวัดภูเก็ต และช่องทางภายในประทศท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ผู้เดินทางยกเว้นเด็กอายุไม่เกิน 6 ปีที่เดินทางมากับผู้ปกครอง ต้องมีคุณสมบัติอย่างหนึ่งอย่างใด และต้องถือปฏิบัติ ดังนี้

• ต้องเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบ 2 เข็ม หรือครบโดสตามจำนวนวัคซีนแต่ละชนิด หรือได้รับวัคซีน AstraZeneca จำนวน 1 เข็มมาแล้วเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 14 วัน หรือเป็นผู้ที่หายจากอาการป่วยด้วยโควิด-19 มาแล้วไม่เกิน 90 วัน หรือได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธีการ RT-PCR หรือวิธีการ Antigen Test ไม่เกิน 7 วัน นับแต่วันที่ได้รับการตรวจ


กรณีผู้เดินทางมาจากจังหวัดที่กำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด รวมทั้งสิ้น 10 จังหวัด [กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม สมุทรปราการ สมุทรสาคร สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส] และพื้นที่ควบคุมสูงสุด รวมทั้งสิ้น 24 จังหวัด [พระนครศรีอยุธยา ฉะเชิงเทรา สุพรรณบุรี สระบุรี ชัยนาท นครนายก นครสวรรค์ อ่างทอง อุทัยธานี ปราจีนบุรี สิงห์บุรี ลพบุรี สมุทรสงคราม กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ประขวบคีรีขันธ์ ชลบุรี ระยอง นครราชสีมา ตาก นครศรีธรรมราช กระบี่และระนอง] การตรวจคัดกรองการเดินทางและมาตรการต้องเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด ครบ 2 เข็ม หรือครบโดสตามจำนวนวัคซีนแต่ละชนิด หรือได้รับวัคซีนได้รับวัคซีน AstraZeneca จำนวน 1 เข็มมาแล้วเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 14 วัน หรือเป็นผู้ที่หายจากอาการป่วยด้วยโควิด-19 มาแล้วไม่เกิน 90 วัน และต้องได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด ด้วยวิธีการ RT-PCR หรือวิธีการ Antigen Test ไม่เกิน 7 วัน นับแต่วันที่ได้รับการตรวจ
กรณีนักเรียนนักศึกษาอายุไม่ถึง 18 ปี ที่ไม่สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด ได้ แบะมีความจำเป็นต้องเดินทางเข้า-ออกจังหวัดภูเก็ตเพื่อการเรียนการศึกษา ให้หน่วยงานต้นสังกัดของสถานศึกษาหรือศึกษาธิการจังหวัดออกบัตรประจำตัวเป็นรูปแบบเดียวกัน แสดงต่อเจ้าหน้าที่เมื่อเดินทางผ่านเข้า-ออกจังหวัดภูเก็ต และให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตทำการตรวจหาเชื้อโควิด ด้วยวิธีการ RT-PCR และออกใบรับรองการตรวจหาเชื้อโควิดให้ใช้ได้ไม่เกิน 1 เดือน
ต้องดาวน์โหลดและติดตั้งแอปพลิเคชัน “หมอชนะ” บนสมาร์ทโฟน และยินยอมเปิดแชร์ตำแหน่งที่ตั้ง [Location] ตลอดเวลาที่อยู่ในจังหวัดภูเก็ต
แสดงเอกสารหลักฐานข้างต้น ต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อก่อนเข้าจังหวัดภูเก็ต
ให้สังเกตติดตามอาการตนเอง ตามมาตรการป้องกันควบคุมโรค หากพบอาการป่วยหรือสงสัยว่ามีอาการป่วยด้วยโรคโควิด -19 ให้พบแพทย์โดยด่วน

** ผู้ติดเชื้อที่จงใจปกปิดข้อมูลการเดินทางหรือแจ้งข้อมูลเท็จต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการสอบสวนและควบคุมโรค อาจะเข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ซึ่งเป็นความผิด พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558

ขอความร่วมมือผู้เดินทางเข้ามาในจังหวัดภูเก็ต

ข้อ 2 ขอความร่วมมือผู้เดินทางเข้ามาในจังหวัดภูเก็ต ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด [D-M-H-T-T-A]
D-Distancing = เว้นระยะห่างระหว่างกัน
M-Mask Wearing = สวมหน้ากากผ้า/หน้ากากอนามัยเสมอ
H-Hand Washing = ล้างมือบ่อยๆ
T-Temperature = ตรวจวัดอุณหภูมิ
T-Testing = ตรวจหาเชื้อโควิด – 19
A-Application = ติดตั้งและสแกนแอปพลิเคชันไทยชนะ และหมอชนะ

ผู้ฝ่าฝืนอาจมีความผิดหลายมาตรา

หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งฉบับนี้ อาจะเป็นความผิดตามมาตรา 51 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือมาตรา 52 ต้องระวางโทษศจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจได้รับโทษตามมาตรา 18 แห่งพ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ต้องระว่างโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิร 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค.2564 ถึงวันที่ 31 ก.ค.2564

ข่าวที่เกี่ยวข้อง