นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ชี้แจงประเด็น ข้อเรียกร้องให้รัฐบาลออกมาตรการช่วยเหลือ 7 สายการบินภายในประเทศว่า ปัจจุบัน ทอท.ได้มีมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการสายการบินที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยการลด/ยกเว้น ค่าบริการ Landing & Parking charges ค่าเช่าสำนักงาน และค่าบริการต่าง ๆ ซึ่ง ทอท.ได้ขยายเวลาช่วยเหลือฯ จากเดิมที่สิ้นสุดเดือน ธ.ค.64 ขยายไปสิ้นสุดเดือน มี.ค.65 เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่อาจจะยืดเยื้อถึงเดือน ธ.ค.64 ไปจนสิ้นสุดตารางการบินฤดูหนาวของปี 64 ณ สิ้นเดือน มี.ค.65 โดยการขยายมาตรการช่วยเหลือฯ ด้านค่าบริการสนามบินได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการการบินพลเรือนแล้ว

นอกจากนั้น ทอท.ได้อนุญาตให้สายการบินเลื่อนชำระหนี้สินคงค้างของสายการบินตั้งแต่เริ่มสถานการณ์โควิด-19 ในปี 63 มาโดยตลอดและเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์วิกฤติของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่มีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น คณะกรรมการพิจารณารายได้ของ ทอท.จึงมีมติเมื่อวันที่ 5 ก.ค.64 ผ่อนผันการวางหลักประกันเงินสดสำหรับสายการบินที่มีหนี้สินค้างชำระกับ ทอท.ที่ประสงค์จะทำการบิน ณ ท่าอากาศยานที่อยู่ในความรับผิดชอบของ ทอท.ทั้ง 6 แห่ง และมอบหมายให้ฝ่ายพัฒนาธุรกิจและการตลาดพิจารณาแนวทางการช่วยเหลือสายการบินเพิ่มเติมจากมาตรการช่วยเหลือฯ เดิมที่ ทอท.มีอยู่ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณามาตรการช่วยเหลือฯ เพิ่มเติม เพื่อเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้แก่สายการบินในช่วงวิกฤติการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่รุนแรงมากขึ้นในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม ทอท.ขอสงวนสิทธิในการเปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือยกเลิกเงื่อนไขการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการและสายการบินตามมาตรการดังกล่าว ซึ่งหากสถานการณ์ของโรคโควิด-19 ยังมีความยืดเยื้อ ทอท.อาจมีการพิจารณาให้ความช่วยเหลือฯ ที่เหมาะสมกับสถานการณ์ในลำดับต่อไป
ด้านนายทินกร ชูวงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด ได้ชี้แจงประเด็นเดียวกันว่า บวท.ได้ให้ความช่วยเหลือ 7 สายการบินที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด -19 ตามมติคณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) ดังนี้
1.ยกเว้นค่าปรับจากการชำระล่าช้าของสายการบินผู้ถือหุ้นสำหรับค่าบริการควบคุมจราจรทางอากาศและกลุ่มลูกค้าธุรกิจการบินสำหรับค่าเช่าและค่าบำรุงรักษาอุปกรณ์สื่อสาร (มี.ค.- ก.ย.63)

2.ปรับลดค่าบริการการเดินอากาศลง 50% สำหรับเที่ยวบินภายในประเทศ และ 20% สำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ (เม.ย.-ธ.ค.63)
3.บวท.ได้เริ่มเรียกเก็บค่าบริการสำหรับเที่ยวบินทั้งในและต่างประเทศเต็มจำนวนเพียง 50% ก่อน และขยายเวลาชำระหนี้ในส่วนที่เหลืออีก 50% ออกไปเป็นระยะเวลา 6 รอบบิล (ม.ค.- มิ.ย.64)

ขณะที่ปริมาณเที่ยวบินที่ให้บริการลดลงอย่างต่อเนื่อง โดย บวท.คาดการณ์ปริมาณเที่ยวบินในปีงบประมาณ 64 (ต.ค.63-ก.ย.64) ว่าจะมีปริมาณเที่ยวบินลดลงจากปี 63 ถึงร้อยละ 56 ทำให้ปี 64 บวท.จะมีรายได้ต่ำกว่าค่าใช้จ่าย 6,600 ล้านบาท ส่งผลให้ปัจจุบัน บวท. ประสบปัญหาขาดสภาพคล่องอย่างมากเช่นกัน ด้วยสถานการณ์ดังกล่าว บวท.จึงไม่สามารถให้ความช่วยเหลือสายการบินตามมาตรการช่วยเหลือต่อไปได้ โดย บวท. จำเป็นต้องจัดหาแหล่งเงินกู้ระยะสั้นเพิ่มเติมเพื่อเสริมสภาพคล่องในปี 64 – 65 ทั้งนี้ บวท.อยู่ระหว่างรอความชัดเจนเรื่องการขอรับเงินสนับสนุนรัฐวิสาหกิจ (Public Service Obligation: PSO) เพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงินของ บวท. อีกทางหนึ่ง
