นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ก.คลัง ได้ชี้แจงประเด็นข้อเรียกร้องมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการแท็กซี่ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ว่า กระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทยได้มีมาตรการพักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยอย่างน้อย 2 เดือน ให้ลูกหนี้ที่เป็นนายจ้างและลูกจ้างในสถานประกอบการในพื้นที่ควบคุมสูงสุด 10 จังหวัดและนอกพื้นที่ควบคุม ที่ต้องปิดกิจการจากมาตรการควบคุมการระบาดของรัฐ ตั้งแต่งวดชำระหนี้เดือน ก.ค.64 หรือเดือน ส.ค.64 เป็นต้นไป
ส่วนสินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์และรถจักรยานยนต์ รวมถึงสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ได้เพิ่มทางเลือกการพักชำระค่างวดและเพิ่มทางเลือกในการคืนรถ หากมีภาระหนี้คงเหลือจากการขายประมูล ผู้ให้ บริการทางการเงินสามารถช่วยลดภาระหนี้ให้สอดคล้องกับสถานะของลูกหนี้ได้
นอกจากนี้ ธ.ออมสิน และ ธ.ก.ส.มีสินเชื่อสู้ภัยโควิด-19 วงเงิน 20,000 ล้านบาท เพื่อเพิ่มสภาพคล่องชั่วคราวในการดำรงชีวิตและบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชน วงเงินต่อรายไม่เกิน 10,000 บาท ดอกเบี้ยร้อยละ 0.35 ต่อเดือน ระยะเวลากู้ 3 ปี ปลอดชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 6 เดือนแรก ขอสินเชื่อถึงวันที่ 31 ธ.ค.64
ด้านนายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ได้ชี้แจงเพิ่มเติมเรื่องมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการแท็กซี่ที่ได้รับผลกระทบว่า กระทรวงคมนาคมและกรมการขนส่งทางบกได้ช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว ได้แก่ การขยายอายุรถแท็กซี่จาก 9 ปี เป็น 12 ปี, อนุญาตให้ใช้เทคโนโลยีทางเลือกอื่นติดตามรถแทน GPS, พัฒนา Application แทน GPS สำหรับให้กลุ่มแท็กซี่ใช้ “ฟรี” โดยไม่มีค่าใช้จ่าย, เปิดโอกาสให้ติดตั้งสื่อโฆษณาบนแท็กซี่, กำหนดค่าสัมภาระเพิ่มเติมให้แท็กซี่สนามบิน เป็นต้น โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาบริการรถสาธารณะให้มีประสิทธิภาพ เกิดความปลอดภัย
นอกจากนี้ เพื่อให้ผู้ขับรถแท็กซี่ประกอบอาชีพได้อย่างปลอดภัย ก.คมนาคมร่วมกับ ก.สาธารณสุขได้นำผู้ขับรถสาธารณะทุกประเภท เข้าฉีดวัคซีน ณ สถานีกลางบางซื่อ ระหว่างวันที่ 24 พ.ค.-30 มิ.ย.64 โดยผู้ขับรถแท็กซี่ได้ฉีดวัคซีนไปแล้วจำนวน 18,427 คน และจัดหาอุปกรณ์กั้นระหว่างที่นั่งผู้ขับรถกับคนโดยสาร (Partition) ในรถแท็กซี่ เพื่อช่วยป้องกันการแพร่กระจายเชื้ออีกทางหนึ่ง ทั้งนี้ หากกลุ่มผู้ประกอบอาชีพขับรถแท็กซี่ต้องการขอฉีดวัคซีนเพิ่มเติม ก.คมนาคมได้ประสานไปยัง กระทรวงสาธารณสุข ให้ไปลงทะเบียนฉีดวัคซีนได้ในเดือน ส.ค.64
ส่วนมาตรการเสริมเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการแท็กซี่ นายประทีป ทรงลำยอง ผู้ตรวจราชการ ก.แรงงาน ในฐานะโฆษก กระทรวงแรงงาน ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ขับรถแท็กซี่ที่ไม่เป็นผู้ประกันตน ม.33 ม.39 สามารถสมัครเป็นผู้ประกันตน ม.40 ได้ (ผู้ประกอบอาชีพอิสระ เช่น พ่อค้า แม่ค้า แท็กซี่ มอเตอร์ไซค์รับจ้าง เกษตรกร ที่มีอายุตั้งแต่ 15-65 ปีบริบูรณ์) โดยจ่ายเงินสบทบ ดังนี้
- จ่ายเงินสมทบ 70 บาท/เดือน คุ้มครอง 3 กรณี คือ กรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยรับเงินทดแทนการขาดรายได้ กรณีทุพพลภาพ กรณีตาย
- จ่ายเงินสมทบ 100 บาท/เดือน คุ้มครอง 4 กรณี คือ กรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยรับเงินทดแทนการขาดรายได้ กรณีทุพพลภาพ กรณีตาย และกรณีชราภาพ
- จ่ายเงินสมทบ 300 บาท/เดือน คุ้มครอง 5 กรณี คือ กรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยรับเงินทดแทนการขาดรายได้ กรณีทุพพลภาพ กรณีตาย กรณีชราภาพ และกรณีสงเคราะห์บุตร
ทั้งนี้ สำนักงานประกันสังคมได้ประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มคนทั่วไปที่มีอายุตั้งแต่ 15-65 ปีบริบูรณ์ ประกอบอาชีพอิสระให้สมัครเป็นผู้ประกันตน ม.40 และรับสมัครเครือข่ายเพื่อเป็นตัวแทนสำนักงานประกันสังคมในการรับสมัครผู้ประกันตน ม.40 และสร้างความรับรู้ ความเข้าใจให้แก่บุคคลทั่วไปทราบถึงสิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตน ม.40
