สธ.แจงถอนงานวิจัย “ฟ้าทะลายโจร” เพื่อแก้ไขตัวเลขการคำนวณทางสถิติ ยันผลลัพธ์ลดปอดอักเสบได้ตามเดิม

แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ชี้แจงประเด็น “ข้อสงสัยกรณีการถอนงานวิจัยฟ้าทะลายโจรรักษาโควิด-19 ก่อนตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์” ว่า ทีมนักวิจัยของกรมการแพทย์แผนไทยฯ ได้เสนอผลวิจัยในระดับนานาชาติ โดยส่งไปตีพิมพ์ในวารสารวิชาการเพื่อแบ่งปันเพื่อนนักวิจัยแวดวงอื่นซึ่งระหว่างรอตีพิมพ์พบว่างานวิจัยมีการคำนวณค่าสถิติผิดพลาด 1 จุด คือ ค่านัยสำคัญทางสถิติเนื่องจากจำนวนกลุ่มตัวอย่างที่ค่อนข้างน้อย ตอนแรกค่านัยสำคัญทางสถิติอยู่ที่ 0.03 หมายถึงทดลอง 100 ครั้ง ผลลัพธ์คงเดิม 97 ครั้ง เมื่อพิจารณาอีกครั้งพบว่าค่าอยู่ที่ 0.112 หมายถึงทดลอง 100 ครั้ง ผลลัพธ์คงเดิม 90 ครั้ง จึงต้องถอนงานวิจัยออกมาเพราะเป็นเรื่องสำคัญในทางวิชาการ นักวิจัยต้องมีความซื่อสัตย์ต่อผลลัพธ์และได้นำเอกสารกลับมาแก้ไขให้ถูกต้อง ก่อนส่งกลับไปตีพิมพ์ใหม่ ทั้งในวารสาร medRxiv และวารสาร IJID มิได้ถูกปฏิเสธจากวารสารแต่อย่างใดและเนื้อหางานวิจัยหลักยังเป็นไปตามรายงานฉบับแรก คือ ใช้ป้องกันผู้ติดเชื้อโควิดอาการเล็กน้อย ไม่ให้เกิดภาวะปอดอักเสบ ทิศทางนโยบายการใช้ฟ้าทะลายโจรจึงยังเหมือนเดิม ทั้งการจ่ายยาในระบบการดูแลที่บ้านหรือชุมชน

เมื่อเริ่มพบการระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งเป็นโรคใหม่ ยังไม่มียาที่ได้รับรองการรักษาโดยตรง จึงมีการศึกษายาชนิดต่างๆ ที่คาดว่าจะใช้รักษาโควิดได้ กรมการแพทย์แผนไทยฯ ได้ศึกษาฟ้าทะลายโจรที่มีคำตอบระดับห้องทดลองแล้ว โดยศึกษาประสิทธิภาพและความปลอดภัยของฟ้าทะลายโจรสกัดในผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการไม่รุนแรงอายุ 18-60 ปี ไม่มีโรคประจำตัวและศึกษาแบบกลุ่มตัวอย่างเปรียบเทียบ 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ได้รับสารสกัดฟ้าทะลายโจรในปริมาณที่คำนวณสำหรับการรักษา จำนวน 29 รายและกลุ่มเปรียบเทียบที่ได้รับยาที่ไม่มีสารสกัดฟ้าทะลายโจร (ยาหลอก) 28 ราย พบว่ามีแนวโน้มได้ผลดี ลดการพัฒนาของโรคไม่ให้เดินหน้ารุนแรงขึ้นจนมีปอดอักเสบ

อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยฯ ได้กล่าวเน้นย้ำว่า ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มที่ได้รับสารสกัดฟ้าทะลายโจรไม่พบอาการปอดอักเสบทั้งหมด กลุ่มที่ใช้ยาหลอกมีปอดอักเสบ 3 ราย คิดเป็น 10.7% ขณะที่การคงอยู่ของตัวไวรัสในวันที่ 5 ของกลุ่มที่ได้รับสารสกัดฟ้าทะลายโจรพบตัวไวรัส 10 ราย ส่วนกลุ่มที่ไม่ได้สารสกัดฟ้าทะลายโจร พบตัวไวรัสเกินครึ่งคือ 16 ราย จึงตอกย้ำความเป็นไปได้ของฟ้าทะลายโจรที่มีประสิทธิภาพในการรักษาและไม่พบปัญหาผลกระทบเรื่องตับ ไต และระบบเลือด ถือว่ามีความปลอดภัย จึงผลักดันการศึกษาต่อเนื่อง นำไปสู่ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายและการใช้ยา

ทั้งนี้ ในการแก้ไขปัญหา กรมการแพทย์แผนไทยฯ ได้วางแผนทำการวิจัยโดยขยายขนาดตัวอย่างมากขึ้น รวมถึงการเปรียบเทียบกับการรักษามาตรฐานอื่นซึ่งจะต้องปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์และความรู้ที่เกี่ยวข้องกับโรคโควิด-19 ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ขณะนี้อยู่ระหว่างการยื่นโครงร่างวิจัยเพื่อผ่านคณะกรรมการศึกษาวิจัยในคน นอกจากนี้จะเชิญชวนทุกภาคส่วน ทั้งภาคปฏิบัติการ รพ.ภาคการศึกษา มหาวิทยาลัย ร่วมมือพัฒนางานวิจัยเต็มรูปแบบเพื่อเป็นประโยชน์สูงสุดต่อการนำไปใช้จริงในวงกว้างต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง