พลตำรวจตรี ยิ่งยศ เทพจำนงค์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ชี้แจง กรณีตำรวจฝึกต่อต้านปราบปรามการก่อความไม่สงบที่ป่าละอู จ.ประจวบคีรีขันธ์ ติดเชื้อโควิด-19 ว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีภารกิจหน้าที่ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม การกระทำความผิดทางอาญา การรักษาความสงบเรียบร้อย การรักษาความปลอดภัยให้ประชาชน ตลอดจนความมั่นคงของราชอาณาจักร จึงมีความจำเป็น ต้องมีการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ เพื่อเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติภารกิจอยู่เสมอ

เบื้องต้นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยตำรวจภูธรภาค 9 ได้มีหนังสือนำเรียน ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์ เรื่องขออนุญาตนำข้าราชการตำรวจเดินทางเข้าพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.64 โดยคณะกรรมการควบคุมโรค จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้มีมติในที่ประชุมครั้งที่ 27/64 เมื่อวันที่ 14 ก.ค.64 อนุญาตให้ตำรวจภูธรภาค 9 ฝึกอบรมหลักสูตรการต่อต้านปราบปรามการก่อความไม่สงบ ณ ศูนย์ฝึกรบพิเศษฤทธิฤชัย บ้านป่าละอู จ.ประจวบคีรีขันธ์ ระหว่างวันที่ 1 ส.ค.64 ถึง 6 ก.ย.64 โดยให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค
ขณะจัดการฝึก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด โดยมีการตรวจหาเชื้อ (ผลการตรวจ : ไม่พบเชื้อ) การตรวจวัดอุณหภูมิ ใช้เจลแอลกอฮอล์ สวมหน้ากากอนามัย ห้ามมิให้ออกจากพื้นที่ฝึก หรือมิให้ผู้ใดเข้าเยี่ยมผู้รับการฝึก ตลอดจนได้มีการฉีดวัคซีนให้กับครูฝึก/ผู้เข้ารับการฝึกทุกนายครบ 2 เข็มแล้ว

โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้กล่าวเสริมว่า การฝึกในสัปดาห์ที่ 2 มีแม่ครัวนำเด็กมาช่วยเสริฟอาหารภายหลังพบว่า ครอบครัวของเด็กติดเชื้อโควิด-19 ทางกองอำนวยการฝึกได้ประสาน สสจ.ประจวบคีรีขันธ์ มาตรวจหาเชื้อให้กำลังพลทั้งหมด พบว่ามีผู้ติดเชื้อ 334 คน (กำลังพล 324 คน ครูฝึก 5 คน เจ้าหน้าที่ 3 คน แม่ครัว 2 คน) ซึ่งได้นำตัวไปรักษา ส่วนผู้ที่ตรวจไม่พบเชื้อได้กักตัวไว้ในพื้นที่เพื่อสังเกตอาการเรียบร้อยแล้ว
สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอยืนยันว่า ได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัดและจะรักษาดูแลกำลังพลที่ติดเชื้ออย่างเต็มที่ ตลอดจนกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัดอยู่เสมอ จึงขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจในการดำเนินการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ