กรมศุลกากร ระบุประมูลขายรถหรู มีคณะกรรมการตรวจสอบ ป้องกันการฟอกรถ

นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร ชี้แจงกรณี ข้อวิจารณ์การหาผลประโยชน์จากสินบนนำจับรถยนต์หลบเลี่ยงภาษีว่า ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร กำหนดให้ของที่ยึดไว้ตาม พ.ร.บ.นี้ ผู้จับกุมจะต้องส่งมอบให้พนักงานศุลกากรเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป และเมื่อของตกเป็นของแผ่นดินแล้วให้จำหน่ายตามระเบียบที่กรมศุลกากรกำหนด เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมรถยนต์ และส่งมอบให้กรมฯ จึงเป็นหน้าที่ที่กรมฯ จะต้องรับมอบเพื่อเก็บรักษาและดำเนินการจำหน่ายเมื่อคดีสิ้นสุดและรถยนต์ตกเป็นของแผ่นดิน ทั้งนี้ การจำหน่ายรถยนต์ของกลางที่คดีสิ้นสุดแล้ว กรมฯ จะจำหน่ายโดยวิธีประมูลขายทอดตลาด ซึ่งเป็นไปตามนโยบายที่กระทรวง การคลังได้กำหนดไว้ ตั้งแต่ ปี 2521

ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา กรมศุลกากรได้พัฒนาปรับปรุงการดำเนินงาน โดยนำมาตรการต่าง ๆ มาใช้เพื่อให้การประมูลขายทอดตลาดรถยนต์มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ รักษาผลประโยชน์ในการสร้างรายได้ให้กับภาครัฐ แต่ไม่เอื้อประโยชน์กับขบวนการฟอกรถ (หากมี) โดยมีการดำเนินงาน ดังนี้

1.การรับรถยนต์ของกลาง ผู้จับกุมต้องมีบันทึกการจับกุมและหนังสือรายงานผลการตรวจสอบของ 7 หน่วยงาน ได้แก่ กองพิสูจน์หลักฐาน กองทะเบียนประวัติอาชญากร กองการต่างประเทศ กรมการค้าต่างประเทศ กรมการขนส่งทางบก ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์และศูนย์เทคโนโลยีและการสื่อสารของกรมศุลกากร ยื่นให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรพร้อมรถยนต์ของกลาง เพื่อยืนยันว่ารถยนต์ของกลาง ไม่มีประวัติการแจ้งหาย ไม่มีการแก้ไขเลขเครื่องยนต์/ตัวถังรถ เพื่อป้องกันการฟอกรถนำรถยนต์โจรกรรมมาให้เจ้าหน้าที่จับกุม

2.การจำหน่ายรถยนต์ กรมศุลกากรมีการแต่งตั้งคณะกรรมการจำหน่ายรถยนต์ของกลาง ซึ่งประกอบด้วย ที่ปรึกษา/รองอธิบดี เป็นประธานกรรมการและมีหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเป็นกรรมการ นอกจากนี้ยังแต่งตั้ง อนุกรรมการประเมินราคารถยนต์ของกลาง เพื่อกำหนดราคาประมูลขายทอดตลาดและคณะอนุกรรมการดำเนินการขายทอดตลาด เพื่อพิจารณาแต่ละขั้นตอนด้วยความรอบคอบก่อนการนำเสนออธิบดีให้ความเห็นชอบ ทั้งนี้ เพื่อให้การประมูลรถยนต์ การกำหนดราคาประมูลรถยนต์ และการดำเนินการประมูล เป็นไปอย่างเที่ยงธรรม ป้องกันการใช้ดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ สร้างความโปร่งใสและให้สาธารณชนสามารถตรวจสอบการทำงานของกรมศุลกากรได้

3.กรมฯ มีนโยบายเปิดกว้างให้สาธารณชนสามารถเข้ามาร่วมการประมูลรถยนต์ เพื่อป้องกันการฮั้วประมูล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 63 ได้กำหนดให้เปิดประมูลทั้งด้วยวาจาที่สถานที่ทำการประมูล ณ กรมศุลกากร ควบคู่กับการประมูลทางออนไลน์ ซึ่งผู้สนใจสามารถร่วมประมูลโดยใช้คอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือ เข้าร่วมประมูลในช่วงเวลาเดียวกันผู้ประมูลที่สถานที่ประมูล (real time)

4.กรมฯ ได้ประกาศให้สาธารณชนทราบล่วงหน้า สำหรับการประมูลรถยนต์ไม่น้อยกว่า 15 วัน และเผยแพร่ผ่านสื่อต่าง ๆ ทั้งทางหนังสือพิมพ์ สื่อออนไลน์ วิทยุ โทรทัศน์ ฯลฯ รวมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้สนใจสามารถเข้ามาชมรถยนต์เพื่อตัดสินใจก่อนวันประมูล

5.กรมฯ ได้มอบหมายให้บริษัทเอกชนซึ่งมีความเป็นมืออาชีพในการประมูลรถยนต์ เข้ามาเป็นผู้ดำเนินการจัดการประมูลรถยนต์

6.กรณีที่ชิ้นส่วนสำคัญของรถยนต์ขาดหาย โดยเฉพาะกล่อง ECU รถยนต์คันนั้นจะไม่ถูกนำมาประมูลขาย เพื่อป้องกันมิให้มีผู้หนึ่งผู้ใดถอดกล่องเพื่อกีดกันมิให้ผู้สนใจคนอื่นๆ เข้าประเมินและกดราคาประมูลรถยนต์เพื่อประโยชน์ของตนเอง

อธิบดีกรมศุลกากร ได้กล่าวยืนยันว่า การรับมอบรถยนต์ของกลางจากผู้จับกุมเพื่อเก็บรักษาและจำหน่ายรถยนต์เมื่อคดีสิ้นสุด โดยวิธีการประมูลขายทอดตลาดจึงเป็นการดำเนินการภายใต้กฎหมายและระเบียบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยกรมศุลกากรได้กำหนดมาตรการต่าง ๆ เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการประมูลขายทอดตลาดรถยนต์มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ รักษาผลประโยชน์ในการสร้างรายได้ให้กับภาครัฐ แต่จะไม่เอื้อประโยชน์กับขบวนการฟอกรถ ทั้งนี้หากปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่ผู้หนึ่งผู้ใดมีส่วนร่วมในขบวนการฟอกรถ กรมฯ พร้อมที่จะพิจารณาความผิดและดำเนินการทั้งทางวินัย ทางละเมิดและทางอาญา อย่างจริงจัง และเด็ดขาดต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง