กอนช. เฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ภาคอีสาน – ใต้ฝั่งตะวันตก จากอิทธิพล”โกนเซิน”

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้รายงานสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศวันนี้ (13 ก.ย.64) ว่า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ส่วนภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนตกหนักบางแห่ง จากอิทธิพลพายุโซนร้อน “โกนเซิน (CONSON)” มีแนวโน้มจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง ส่งผลทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง แล้วช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณ จ.ลำพูน 61 มิลลิเมตร สกลนคร 99 มิลลิเมตร สุพรรณบุรี 14 มิลลิเมตร ประจวบคีรีขันธ์ 12 มิลลิเมตร ตราด 19 มิลลิเมตร และสตูล 57 มิลลิเมตร โดยแม่น้ำสายหลักภาคตะวันออกและภาคตะวันตกน้ำน้อยถึงปกติและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่วนภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ และแม่น้ำโขงน้ำน้อยถึงปกติและมีแนวโน้มลดลง

ภาพรวมปริมาณน้ำทั้งประเทศ 45,139 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 55 และแหล่งน้ำขนาดใหญ่ 39,490 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 55 ส่วนจุดเฝ้าระวังน้ำน้อยยังคงอยู่ในพื้นที่ 6 แห่ง เฝ้าระวังน้ำมาก 6 แห่ง บริเวณเขื่อนนฤบดินทรจินดา เขื่อนลำพระเพลิง เขื่อนแม่มอก เขื่อนลำตะคอง เขื่อนขุนด่านปราการชล และเขื่อนมูลบน พร้อมคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก-ดินถล่มช่วง 2 – 3 วันนี้ ต้องเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ตาก แพร่ น่าน สุโขทัย เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ อุทัยธานี สระบุรี กาญจนบุรี เลย ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด สุราษฎร์ธานี ระนอง นครศรีธรรมราช พังงา และกระบี่ รวมทั้ง ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง น้ำหลาก และดินถล่มในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ นครสวรรค์ มหาสารคาม และเพชรบูรณ์

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ยังได้ติดตามการบริหารจัดการน้ำเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ฝนตกหนัก อย่างกรมชลประทาน เนื่องจากมีฝนตกหนักบริเวณภาคเหนือตอนบนและภาคกลาง ส่งผลให้มีน้ำหลากจากพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยาไหลลงเหนือเขื่อนเจ้าพระยาต่อเนื่อง คาดการณ์ปริมาณน้ำไหลผ่านที่สถานีวัดน้ำ C.2 จ.นครสวรรค์ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอยู่ในเกณฑ์ 1,300-1,400 ลูกบาศก์ต่อวินาที แล้วต้องเพิ่มปริมาณน้ำที่ไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา 800-1,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้ระดับน้ำที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบัน โดยเฉพาะพื้นที่ตลิ่งต่ำบริเวณริมแม่น้ำน้อย ช่วงวันที่ 13 – 16 กันยายน บริเวณ ต.บ้านกระทุ่ม ต.หัวเวียง อ.เสนา และ ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยาจะเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 1.50 เมตร หากมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นที่จะส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยามากกว่า 1,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีจะแจ้งให้ทราบต่อไป พร้อมยังได้กำชับให้โครงการชลประทานในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาประสานแจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนทราบถึงสถานการณ์น้ำแล้ว

ขณะที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ประสานจังหวัดเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ ด้วยการติดตามสถานการณ์ของจังหวัดเฝ้าระวังติดตามสภาพอากาศและปัจจัยเสี่ยงเชิงพื้นที่อย่างใกล้ชิด ทั้งข้อมูลปริมาณน้ำฝนสะสม ระดับน้ำในแหล่งน้ำต่างๆ การระบายน้ำในอ่างเก็บน้ำ และสถานการณ์น้ำของจังหวัดพื้นที่ต้นน้ำ เพื่อวิเคราะห์คาดการณ์และประเมินแนวโน้มสถานการณ์ วางแผนปฏิบัติการ และแจ้งเตือนภัยล่วงหน้า แล้วให้จังหวัดแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยติดตามสถานการณ์และการแจ้งเตือนภัยจากหน่วยงานราชการด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง