ข่าวปลอม! กินใบกระท่อมทอดกรอบ ทำให้คลายเส้น-ตื่นตัว

ตามที่ได้มีข้อมูลปรากฎในสื่อออนไลน์ต่าง ๆ ถึงเรื่อง กินใบกระท่อมทอดกรอบ มีฤทธิ์คลายเส้น และทำให้ตื่นตัว

ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดย กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข พบว่าข้อมูลดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ โดยชี้แจงว่า การใช้ใบกระท่อมควรรูดเอาก้านใบออก เนื่องจากก้านใบและใบกระท่อมไม่สามารถย่อยได้ สามารถตกตะกอน ติดค้างในลำไส้ เกิดพังพืดหุ้มรอบกากกระท่อมได้

สำหรับในกรณีการบริโภคใบกระท่อมโดยนำมาชุบแป้งทอดกรอบ เป็นวิธีแบบใหม่ ซึ่งเมนูดังกล่าวเป็นเมนูที่ควรระมัดระวังในการบริโภค เนื่องจากการรับประทานในปริมาณมากหรือบ่อยเกินไป อาจทำให้เกิดการตกค้างของใบกระท่อมในลำไส้ และอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ เช่น มึนงง คลื่นไส้อาเจียน หรือทำให้ติดได้ จึงไม่แนะนำให้นำใบกระท่อมมาบริโภคโดยประดิษฐ์เป็นเมนูใหม่ ๆ เพื่อสันทนาการ เนื่องจากอาจเกิดอันตรายได้ ทั้งนี้ ผู้ที่มีอาการผิดปกติจากการบริโภคผลิตภัณฑ์ควรหยุดใช้และรีบพบแพทย์ทันที

ทั้งนี้การบริโภคใบกระท่อมที่ผ่านมามีหลายรูปแบบ เช่น บดเป็นผง ละลายน้ำดื่ม หรือเคี้ยวใบสด โดยเคี้ยวเหลือแต่กากแล้วคายออก หรือเอาใบมาย่างให้เกรียมและตำให้ละเอียดผสมกับน้ำพริกรับประทานเป็นอาหาร เพื่อให้มีแรงทำงานและสามารถทน ตากแดดอยู่กลางแจ้งได้เป็นเวลานานโดยไม่รู้สึกเหนื่อย

โดยสรรพคุณทางยา ใบกระท่อม มีรสขมเฝื่อนเมา ใช้เป็นยาแก้ปวดท้อง แก้บิด ท้องเสีย แก้ปวดเมื่อย ทำให้นอนหลับ และระงับประสาท ในสูตรยาของหมอพื้นบ้านหรือหมอแผนโบราณ จะนำพืชใบกระท่อมมาใช้เป็นยารักษาแก้ท้องร่วง เช่น ตำรับยาประสะกระท่อม ชาวมลายูใช้ใบกระท่อมตำพอกแผล และใช้ทั้งใบเผาให้ร้อนวางบนท้องรักษาโรคม้ามโต ตลอดจนใช้กระท่อมเพื่อทดแทนฝิ่นในท้องที่ ซึ่งหาฝิ่นไม่ได้ และบ่อยครั้งมีการใช้ใบกระท่อมเพื่อควบคุมการติดฝิ่น โดยเฉพาะในประเทศนิวซีแลนด์ในปัจจุบัน

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก สามารถติดตามข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ www.dtam.moph.go.th หรือโทร. 02 5917007

บทสรุป: ไม่แนะนำให้นำใบกระท่อมมาบริโภคโดยประดิษฐ์เป็นเมนูใหม่ ๆ เนื่องจากอาจทำให้เกิดการตกค้างของใบกระท่อมในลำไส้ และอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพและเกิดอันตรายได้

หน่วยงานที่ตรวจสอบ: กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข

ข่าวที่เกี่ยวข้อง