จ่อดีล นำเข้ากุ้ง เฉพาะช่วงผลผลิตน้อย เน้นเข้มคุณภาพ-ปลอดภัย

จากกรณีสื่อหลายสำนักมีการเสนอข่าว นายกสมาคมกุ้งตะวันออกไทยร้องหน่วยงานทางภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ประเด็นการนำเข้ากุ้งของผู้ประกอบการห้องเย็น และโรงงานแปรรูปกุ้ง ว่าควรเพิ่มความเข้มงวดในการกำหนดโควตาปริมาณและเวลานำเข้าที่ชัดเจน ควบคู่กับตรวจสอบคุณภาพและความปลอดภัยของกุ้งนำเข้า หวั่นกระทบการผลิตในประเทศและเสถียรภาพราคา

นายสัตวแพทย์สมชวน  รัตนมังคลานนท์  ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์รักษาราชการแทนอธิบดีกรมประมง ชี้แจงว่า จากข้อมูลผลผลิตกุ้งทะเลที่มาจากการเพาะเลี้ยงของสถิติกรมประมงย้อนหลัง 5 ปี พบว่า ช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนเมษายนของทุกปี ผลผลิตกุ้งทะเลภายในประเทศจะมีปริมาณไม่มากนัก โดยเฉลี่ยประมาณ 19,000 ตันต่อเดือน และคาดการณ์ว่าผลผลิตกุ้งทะเลในปี 2564 จะมีปริมาณ 258,000 ตันโดยประมาณ ซึ่งลดลงประมาณร้อยละ 10 เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา

แนวโน้มของผลผลิตกุ้งภายในประเทศที่ลดลงนี้ ตัวแทนผู้ประกอบการห้องเย็นและโรงงานแปรรูป จึงได้ร่วมกับตัวแทนเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งทะเลหารือถึงแนวทางในการแก้ไขปัญหา เพื่อให้อุตสาหกรรมกุ้งไทยสามารถขับเคลื่อนต่อไปได้ และยังคงมีศักยภาพทางการแข่งขันในระดับโลก

ผลสรุปทั้งสองฝ่ายมีความเห็นร่วมกันในการนำเข้าวัตถุดิบกุ้งทะเลจากต่างประเทศเฉพาะช่วงเวลาและปริมาณผลผลิตภายในประเทศมีปริมาณน้อย ภายใต้เงื่อนไขที่ห้องเย็นและโรงงานแปรรูปจะรับซื้อผลผลิตกุ้งทะเลจากเกษตรกรในราคานำตลาดที่ไม่ต่ำกว่าต้นทุนการผลิต เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาของกุ้งทะเลภายในประเทศไว้ โดยผ่านกลไกของคณะกรรมการบริหารจัดการห่วงโซ่การผลิตกุ้งทะเลและผลิตภัณฑ์ (Shrimp board) โดยเริ่มดำเนินการรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกร ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2564 – 15 เมษายน 2565

ประเทศต้นทางที่ไทยจะนำเข้าสินค้ากุ้งทะเลนั้นจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กรมประมงกำหนดอย่างเข้มงวด ได้แก่ ทุกรุ่นสินค้ากุ้งทะเลที่นำเข้าจะต้องมีหนังสือรับรองสุขภาพสัตว์น้ำที่ออกโดยหน่วยงานภาครัฐที่มีอำนาจหน้าที่ทางกฎหมาย (Competent Authority: CA) ของประเทศต้นทาง โดย CA ของประเทศต้นทางต้องรับรองสถานะปลอดเชื้อก่อโรคในสินค้ากุ้งทะเลเหล่านั้น และเมื่อสินค้ามาถึงประเทศไทย สินค้าจะต้องเข้าสู่ระบบกักกันเพื่อให้เจ้าหน้าที่กรมประมงดำเนินการสุ่มตรวจเชื้อก่อโรคกุ้งทะเลที่สำคัญอีกครั้ง ทั้งเชื้อก่อโรคตามบัญชีรายชื่อของ OIE ได้แก่ โรคไอเอ็มเอ็น (IMN) โรคตัวแดงดวงขาว (WSD) โรคหัวเหลือง (YHD) โรคทีเอส (TS) โรคไอเอชเอชเอ็น (IHHN) โรคเอ็นเอชพี (NHP) และเชื้อที่อยู่นอกบัญชีรายชื่อ OIE เช่น โรคดีไอวี วัน (DIV 1) ภายใต้พระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 รวมทั้งมีการสุ่มตรวจสารตกค้าง เช่น Chloramphenicol Nitrofurans และ Malachite green ภายใต้พระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 โดยการสุ่มตัวอย่างทั้งหมดสอดคล้องตามหลักการสากลตามที่ OIE และ CODEX กำหนดไว้ และหากมีการตรวจพบเชื้อก่อโรคและ/หรือตรวจพบสารตกค้างเกินเกณฑ์มาตรฐาน สินค้าเหล่านั้นจะถูกทำลายหรือตีกลับประเทศต้นทางทันที

จากมาตรการข้างต้น จึงมั่นใจว่าสินค้ากุ้งทะเลที่จะสามารถนำเข้ามาในประเทศไทยได้นั้นจะต้องมาจากแหล่งผลิตต้นทางที่มีระบบควบคุมที่มีประสิทธิภาพ โดยนอกจากจะถูกตรวจสอบและรับรองจากประเทศต้นทางแล้ว ยังมีการตรวจสอบอย่างเข้มงวดอีกครั้งเมื่อสินค้ามาถึงประเทศไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง