ปศุสัตว์ แจง เหตุเนื้อหมูขึ้นราคา อาจเกิดจากเข้มงวดมาตรการมากขึ้น ยัน!! ไม่พบอหิวาต์ในไทย

กรณีนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ  ส.ส.พรรคเพื่อไทย ระบุสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ราคาเนื้อหมูสูงขึ้นเกิดจากรัฐบาลไม่ยอมรับว่าเกิดการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) ที่ระบาดในหลายทวีป แต่อ้างว่าเป็นโรค PRRS ที่มีวัคซีนป้องกัน นั้น

นายสรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ ชี้แจงว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร พบรายงานครั้งแรกในทวีปเอเชียในปี 2561 ที่ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน และระบาดไปในวงกว้างไปยังประเทศอื่นๆ รวมทั้งประเทศเพื่อนบ้านของประเทศไทย ทำให้ประเทศไทยมีความเสี่ยงในการเกิดโรค ถึงแม้ว่าปัจจุบันไทยคงสถานะปลอดโรค ASF เป็นหนึ่งเดียวในอาเซียน แต่ปัจจุบันพบการระบาดของโรคใน 39 ประเทศทั่วโลกแล้ว

ประเทศไทยได้มีการเตรียมความพร้อมรับมือต่อโรคดังกล่าวก่อนพบการระบาดของโรคที่ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยการระดมความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการจัดทำแผนเตรียมความพร้อมรับมือโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร พร้อมทั้งเสนอขออนุมัติต่อคณะรัฐมนตรียกระดับเป็นวาระแห่งชาติเพื่อการบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วนรวมทั้งงบประมาณสำหรับการเฝ้าระวัง ป้องกันและกำจัดโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร

Raw meat on a white background

หนึ่งในมาตรการสำคัญคือการลดความเสี่ยงต่อโรคโดยการทำลายสุกรและจ่ายค่าชดใช้ราคาสุกรที่ถูกทำลายตามพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558 ผ่านระบบการประเมินความเสี่ยงทั้งในระดับพื้นที่และระดับฟาร์ม

อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า ข้อมูลของระบบการเฝ้าระวังโรคทั้งเชิงรุกและเชิงรับสำหรับโรคระบาดในปศุสัตว์ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561 ถึง ปัจจุบัน พบการระบาดของโรค Porcine reproductive and respiratory syndrome (PRRS) เป็นโรคหรือกลุ่มอาการในระบบสืบพันธุ์และระบบทางเดินหายใจในสุกร จำนวน 635 ครั้ง โรค Classical Swine Fever (CSF) หรือโรคอหิวาต์สุกร จำนวน 17 ครั้ง และโรค Food and Mouth disease (FMD) หรือโรคปากและเท้าเปื่อย จำนวน 11 ครั้ง

ทั้งนี้ กรมปศุสัตว์ได้ชี้แจงทำความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์และเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรถึงวิธีแนวทางการปรับปรุงฟาร์มและยกระดับการเลี้ยงสุกรให้มีความปลอดภัยไม่ให้เกิดความเสียหายจากโรคระบาดข้างต้น ซึ่งส่งผลทางจิตวิทยาต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรรายเล็ก รายย่อยและรายกลางเกิดความตื่นตระหนกต่อข่าวของการเกิดโรคระบาดในสุกรจึงได้เร่งขายสุกรมีชีวิตออกจากฟาร์ม

ดังนั้น กรมปศุสัตว์จำเป็นต้องพิจารณาความพร้อมขององค์ประกอบฟาร์มว่ามีความปลอดภัยเพียงพอหรือไม่จึงจะอนุญาตให้นำสุกรเข้าเลี้ยงใหม่ได้ จึงอาจเป็นเหตุปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อราคาเนื้อสุกรที่เพิ่มสูงขึ้น ไม่นับรวมเรื่องต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น อาหารสัตว์ ยาในการรักษาโรค เป็นต้น

จากข้อมูลการเคลื่อนย้ายสุกรมีชีวิตในปี 2564 เพื่อเข้าโรงฆ่าสัตว์ ผ่านระบบ e-movement พบว่ามีจำนวนสุกรที่ขออนุญาตทั้งสิ้น 19.27 ล้านตัว ซึ่งน้อยกว่าปี 2563 ที่ร้อยละ 12.61 ซึ่งมีจำนวนสุกรที่ขออนุญาตทั้งสิ้น 22.05 ล้านตัว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง