นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายแพทย์ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ ติดตามความพร้อมของโรงพยาบาลสนามเลิดสิน และให้สัมภาษณ์ว่า กระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมความพร้อมรองรับจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น รวมถึงกำหนดมาตรการต่างๆ ให้มีความสอดคล้องและไม่กระทบกับระบบบริการทางด้านการแพทย์และสาธารณสุขปกติ โดยผู้ติดเชื้อที่มีอาการจะมีโรงพยาบาลสนามรับดูแล หากอาการหนักจะส่งตัวไปยังโรงพยาบาล ส่วนผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการหรืออาการไม่มาก จะมีระบบ Home Isolation และ Community Isolation รองรับ
โรงพยาบาลสนามหลายแห่งที่ปิดไปแล้วได้ทยอยเตรียมความพร้อมให้เป็น Community Isolation หากมีความจำเป็นต้องยกระดับสามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีพื้นฐานการดูแลอยู่แล้วโดยมีโรงพยาบาลในสังกัดเป็นโรงพยาบาลแม่ข่ายสนับสนุน โดยขณะนี้โรงพยาบาลสนามยังมีเตียงเพียงพอสามารถรับผู้ติดเชื้อกลุ่มสีเขียวและสีเหลืองเข้ามาดูแลได้ นอกจากนี้ ยังมีสถาบันทันตกรรมดูแลผู้ติดเชื้อที่เข้าระบบ Home Isolation โดยจัดเวชภัณฑ์ ส่งอาหารให้ถึงบ้าน ประชาชนส่วนใหญ่มีความรู้และตระหนักเกี่ยวกับโรคนี้เป็นอย่างดี ส่วนยาฟาวิพิราเวียร์หรือยารักษาอื่นๆ ยังให้องค์การเภสัชกรรมซึ่งมีสารตั้งต้นยาฟาวิพิราเวียร์และได้รับการขึ้นทะเบียนกับ อย. แล้ว เตรียมการผลิตยาเพื่อดูแลผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นด้วย
จากรายงานพบว่าขณะนี้ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว คาดว่าอาการจะไม่รุนแรงจนถึงขั้นเข้า ICU หรือเสียชีวิต แสดงให้เห็นว่าวัคซีนสามารถป้องกันอาการรุนแรงและเสียชีวิตจากโควิด 19 ได้ อย่างไรก็ตาม แม้จะฉีดวัคซีนแล้วขอให้ทุกคนใช้ชีวิตด้วยความระมัดระวัง สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ หลีกเลี่ยงสถานที่แออัดหรือมีการรวมตัวของคนจำนวนมาก จะช่วยให้เกิดความปลอดภัยจากโควิด 19 ทุกสายพันธุ์