วันที่ 17 ม.ค. 65 นายคณนาถ หมื่นหนู โฆษกกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยถึงกรณีที่มีการวิจารณ์การเก็บค่าเหยียบแผ่นดินว่าอาจกระทบภาคการท่องเที่ยว นั้น
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาชี้แจงว่าการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการท่องเที่ยวภายในประเทศของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ หรือ ที่ไม่เป็นทางการเรียกว่า “ค่าเหยียบแผ่นดิน” เป็นการดำเนินการตามพระราชบัญญัตินโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2562 มาตรา 10/2 กำหนดให้คณะกรรมการอาจเสนอต่อคณะรัฐมนตรีให้มีการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการท่องเที่ยวภายในประเทศของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเพื่อใช้จ่ายในการบริหารและพัฒนาการท่องเที่ยว รวมทั้งใช้จ่ายในการจัดให้มีการประกันภัยแก่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในระหว่างท่องเที่ยวภายในประเทศได้
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้ดำเนินตามกฎหมายข้างต้น โดยศึกษาระบบและรูปแบบการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการท่องเที่ยว อัตราการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการท่องเที่ยวที่เรียกเก็บจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เหมาะสม และผลกระทบต่อการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการท่องเที่ยวที่เรียกเก็บจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยมีการศึกษาวิเคราะห์อย่างรอบด้านตั้งแต่การศึกษาเชิงเปรียบเทียบ การศึกษาแนวทางการเก็บค่าธรรมเนียมของต่างประเทศ การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมและผลกระทบ การวิเคราะห์เชิงเศรษฐมิติ
รวมทั้งการสอบถามความคิดเห็นเชิงลึกจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียด้านการท่องเที่ยวทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งผลการศึกษาพบว่าค่าธรรมเนียม 300 บาท เป็นอัตราที่เหมาะสมเมื่อเปรียบเทียบกับผลดีและผลเสียที่ประเทศไทยจะได้รับ
นอกจากนี้ยังพบว่าประเทศไทยไม่ใช่ประเทศแรกที่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากนักท่องเที่ยว โดยมีกว่า 40 ประเทศทั่วโลกที่มีการเก็บค่าธรรมเนียมนักท่องเที่ยว โดยประเทศไทยถือเป็นประเทศแรกของโลกที่เก็บค่าธรรมเนียมแล้ว มีการให้สวัสดิการคืนแก่นักท่องเที่ยวผ่านประกันอุบัติเหตุ โดยนักท่องเที่ยวที่ได้รับบาดเจ็บระหว่างการท่องเที่ยว จะได้ค่ารักษาไม่เกิน 500,000 บาท และหากเสียชีวิตจะได้เงินชดเชย 1,000,000 บาท มีระยะเวลาคุ้มครอง 45 วัน
ทั้งนี้ นอกจากค่าธรรมเนียมจะนำไปทำประกันให้กับนักท่องเที่ยวแล้ว ยังนำไปพัฒนาการท่องเที่ยวของประเทศไทย อาทิ การพัฒนาสวัสดิการนักท่องเที่ยว การพัฒนาคุณภาพแหล่งท่องเที่ยว การพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการท่องเที่ยว ซึ่งนอกจากจะเป็นการยกระดับและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีที่มุ่งสู่การเป็นการท่องเที่ยวคุณภาพสูงแล้วยังเป็นการลดภาระด้านงบประมาณของภาครัฐอีกด้วย
โฆษกกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ย้ำว่าการจัดเก็บค่าธรรมเนียมดังกล่าวจะจัดเก็บเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเท่านั้น ไม่มีการจัดเก็บจากคนไทย และจะยกเว้นการจัดเก็บค่าธรรมเนียมแก่บุคคล ดังนี้
- 1.ผู้ถือหนังสือเดินทางประเทศไทย
- 2.ผู้ถือหนังสือเดินทางเพื่อการทูต กงสุล หรือการปฏิบัติราชการ (Diplomatic or Official Passport)
- 3.ผู้ได้รับอนุญาตให้ประกอบอาชีพในประเทศ (Work Permit) โดยมีสัญญาว่าจ้างจากผู้ประกอบกิจการในประเทศ
- 4.นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติซึ่งเป็นทารกและเด็กอายุไม่เกิน 2 ปี
- 5.ผู้ควบคุมและเจ้าหน้าที่ประจำอากาศยาน
อย่างไรก็ตามกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจะเร่งสร้างความเข้าใจการจัดเก็บค่าธรรมเนียมนักท่องเที่ยวแก่ประชาชน ผู้ประกอบการ และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติต่อไป