นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์โรคโควิด 19 ว่า ขณะนี้หลายประเทศทั่วโลกมีอัตราผู้เสียชีวิตจากโควิดทั่วโลกเพิ่มขึ้นมาก แต่ด้วยมาตรการป้องกันโรค การรณรงค์ฉีดวัคซีน การรักษาที่มีประสิทธิภาพของบ้านเรา ทำให้อัตราเสียชีวิตของไทยน้อยกว่าหลายประเทศมาก ไทยทำให้อัตราตายน้อยลงกว่าหลายประเทศ เมื่อเทียบกับประเทศที่จำนวนประชากรใกล้เคียงไทยดูอัตราเสียชีวิตสะสมทั้งหมดเทียบกับจำนวนประชากร 1 ล้าน ไทยมีอัตราเสียชีวิตที่ 324:ล้าน เวียดนาม อัตราเสียชีวิต 402:ล้าน มาเลเซีย 981:ล้าน เยอรมัน 1,453:ล้าน แอฟริกาใต้ 1,633:ล้าน ฝรั่งเศส 2,095:ล้าน อังกฤษ 2,349:ล้าน อิตาลี 2,545:ล้าน อัตราเสียชีวิต อเมริกา 2,882:ล้าน
อย่างไรก็ตาม ประชาชนทุกคนยังต้องช่วยกันปฏิบัติมาตรการ VUCA เข้ม เพราะจากนี้ไปจะเห็นสถานการณ์ขาขึ้นของโอมิครอนในไทย เช่นเดียวกับหลายประเทศรอบบ้านเรา กลยุทธ์ของกระทรวงสาธารณสุขจะเน้นดูสถานการณ์จากจำนวนผู้ป่วยหนักและเสียชีวิต ซึ่งจากข้อมูลวันนี้พบผู้ป่วยปอดอักเสบ ผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ รวมถึงจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 2 เท่าเมื่อเทียบกัน 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นผลจากจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นเร็วและจำนวนมาก แม้โอมิครอนจะไม่รุนแรงเท่าเดลตา
ครั้งนี้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเร็วมาก จนไปเจอเข้ากับกลุ่มเสี่ยงผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว ที่เมื่อติดเชื้ออาการรุนแรงและเสียชีวิต แม้การแพทย์จะไม่เน้นดูจำนวนผู้ติดเชื้อแต่ก็ได้ดูค่าเฉลี่ยเพื่อประเมินแนวโน้มผู้ป่วยหนักและเสียชีวิต พบว่าสอดคล้องกันคืออยู่ในขาขึ้น จำนวนผู้ติดเชื้อจากค่าเฉลี่ย 13,000 รายเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ตอนนี้ถึงเป็นกว่า 17,000 ราย เพิ่มขึ้นร้อยละ 70 และยังจะเพิ่มขึ้นแม้จำนวนผู้ติดเชื้อจะคาดการณ์ยากเพราะคาดจะมีผู้ติดเชื้อไม่แสดงอาการจำนวนมากที่อยู่ในชุมชนและไม่ได้ตรวจคัดกรองด้วย ATK
ตอนนี้สถานการณ์จริงของผู้ติดเชื้อ พุ่งขึ้นแซงเส้นคาดการณ์ที่ระดับการติดเชื้อสูงค่อนข้างเร็ว ผลจากการผ่อนคลายเริ่มมาตั้งแต่ 1 ก.พ.เป็นต้นมา แต่เส้นสถานการณ์เสียชีวิตจริงยังไม่ถึงเส้นคาดการณ์ แต่หากยอดติดเชื้อยังเพิ่มจะทำให้ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 5-10 เท่าได้
ต้องคงระดับการเตือนภัยโควิดระดับ 4 ทั่วประเทศ ขอความร่วมมืองดเข้าสถานที่เสี่ยง ได้แก่ สถานที่ปิดทึบ ไม่มีการระบายอากาศที่ดี มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก แออัด ไม่มีการตรวจคัดกรอง ATK ก่อนใช้บริการ ขอให้งดการรวมกลุ่ม และชะลอการเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะที่คนมาก ควรป้องกันตัวเองสูงสุดตลอดเวลา ส่วนคนที่รู้ตัวเป็นกลุ่มเสี่ยง 608 ขอให้ไปรับวัคซีนให้ครบ รวมถึงรับเข็มกระตุ้นเมื่อถึงกำหนดด้วยเพื่อความปลอดภัย ติดเชื้อแล้วจะช่วยลดอาการรุนแรง ลดการเสียชีวิตได้
