“สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดโครงการ ลบประวัติ ล้างความผิด คืนชีวิตให้ประชาชน ที่เคยมีประวัติถูกฟ้องคดีอาญา แล้วศาลยกฟ้อง แต่ยังมีประวัติอาชญากรรมอยู่ในฐานข้อมูลของกองทะเบียนประวัติอาชญากร อยู่ โดยจะทำการคัดแยก หรือทำลายรายการข้อมูลทะเบียนประวัติอาชญากรของบุคคลที่ถูกบันทึกไว้ เพื่อช่วยลดภาระคืนความเป็นธรรมให้ประชาชน”
พลตำรวจโทสุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เปิดโครงการ “ลบประวัติ ล้างความผิด คืนชีวิตให้ประชาชน” เพื่อคืนความเป็นธรรมให้กับประชาชนที่เคยมีประวัติถูกฟ้องคดีอาญา แต่ศาลยกฟ้อง ซึ่งยังมีประวัติอาชญากรรมอยู่ในฐานข้อมูลของกองทะเบียนประวัติอาชญากร ทำให้อาจถูกตัดสิทธิ ไม่ได้รับการพิจารณาเข้าทำงาน ขาดโอกาสในการกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ เนื่องจาก ตามปกติ หากคดีสิ้นสุด โดยอัยการ มีคำสั่งไม่ฟ้อง หรือ ศาลมีคำพิพากษายกฟ้อง ผู้ต้องหา หรือจำเลย ต้องมายื่นคำร้องต่อกองทะเบียนประวัติอาชญากรด้วยตัวเอง เพื่อคัดชื่อออกจากกองทะเบียนประวัติอาชญากร แต่โครงการนี้ จะทำการคัดแยก หรือทำลายรายการข้อมูลทะเบียนประวัติอาชญากรของบุคคลที่ถูกบันทึกไว้ เพื่อลดภาระประชาชนซึ่งเมื่อดำเนินการแล้วเสร็จ จะมอบหมายให้สายตรวจในพื้นที่ แจ้งให้ประชาชนผู้เป็นเจ้าของประวัติทราบต่อไป โดยข้อมูลจากกองทะเบียนประวัติอาชญากร ณ วันที่ 28 เมษายน 2565 มีผู้ที่คดีถึงที่สุดกว่า 7.8 ล้านราย จากที่มีประวัติคดีทั้งหมดกว่า 12 ล้านราย โดยเหลืออีกกว่า 4.6 ล้านราย ที่ยังไม่มีการรายงานข้อมูลคดีถึงที่สุด จึงมอบหมายให้ทุกสถานีตำรวจ เร่งสำรวจข้อมูลคดีอาญาถึงที่สุด ให้เสร็จสิ้นภายในปีนี้ มุ่งเน้นการคัดแยกประวัติอาชญากรรมที่เข้าเกณฑ์ เช่น คดีที่พนักงานอัยการสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้อง หรือสั่งยุติการดำเนินคดีอาญา / ศาลสั่งยกฟ้อง หรือไม่ประทับรับฟ้อง และ ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ยกฟ้อง

ด้านผู้ช่วยศาสตราจารย์ปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าววว่า ตามระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กำหนดให้ผู้ที่ถูกแจ้งข้อหาทุกคน ต้องมีการพิมพ์ลายนิ้วมือและบันทึกประวัติเข้าสู่ทะเบียนประวัติอาชญากร แต่เมื่ออัยการสั่งไม่ฟ้อง หรือ ศาลยกฟ้อง ยังไม่มีการเชื่อมโยงฐานข้อมูลระหว่างกัน และไม่มีการลบข้อมูลประวัติอาชญากรอัตโนมัติ ทำให้ตัวจำเลยหรือผู้ต้องหา ต้องเป็นผู้ยื่นเรื่องขอคัดแยกประวัติ ออกจากทะเบียนประวัติอาชญากร ซึ่งปัจจุบัน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อยู่ระหว่างปรับแก้ระเบียบ ให้มีการนำประวัติผู้ที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษา เข้าสู่ทะเบียนผู้ต้องหา ส่วนผู้ที่ศาลมีคำพิพากษาแล้ว ถึงจะเข้าสู่ทะเบียนประวัติอาชญากร ซึ่งยืนยันว่า ไม่ใช่การล้างความผิด แต่เป็นการให้ความเป็นธรรมกับผู้ต้องคดี ที่อัยการสั่งไม่ฟ้อง หรือ ศาลยกฟ้อง