รัฐบาลแจงแผนดูแลคนพิการจังหวัดชายแดนใต้ ตั้ง “ธนาคารอุปกรณ์คนพิการจังหวัดชายแดนภาคใต้” ให้ความช่วยเหลือคนพิการในพื้นที่

รัฐบาลติดตามการดำเนินการด้านการดูแลคนพิการในจังหวัดชายแดนใต้อย่างต่อเนื่อง ลงพื้นที่วางแนวทางดูแลคนพิการจังหวัดชายแดนใต้ บูรณาการหน่วยงานจัดตั้ง “ธนาคารอุปกรณ์คนพิการจังหวัดชายแดนภาคใต้” รวบรวมอุปกรณ์ที่ได้รับการสนับสนุน บริจาค หรือผลิตขึ้น ส่งต่อการให้ความช่วยเหลือคนพิการในพื้นที่ พร้อมส่งเสริมอาชีพ สร้างรายได้

(14 พ.ค.65) นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมการผู้แทนพิเศษของรัฐบาลในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ เปิดเผยว่า จากการที่ได้ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินการด้านการดูแลคนพิการในจังหวัดชายแดนใต้ พบว่าการส่งเสริมโอกาสเพื่อการมีงานทำและรายได้ เป็นสิ่งที่คนพิการและผู้ดูแลคนพิการต้องการอย่างมาก ที่ผ่านมา รัฐบาลได้สนับสนุนงบประมาณแก่โครงการสร้างอาชีพ เช่น การทำเกษตรปลอดสาร การเลี้ยงผึ้งชันโรง การทำผ้ามัดย้อมการทำอาหาร แก่คนพิการ กว่าหนึ่งพันคน ขณะนี้สามารถสร้างรายได้เสริม และเป็นรายได้หลักให้แก่หลายครอบครัวแล้ว

ขณะที่ ศอ.บต. ได้นำร่องกิจกรรมเพื่อสนับสนุนโอกาสให้คนพิการได้มีอุปกรณ์ที่มีมูลค่าสูงและจำเป็นต้องใช้ในการฟื้นฟูสภาพ โดยร่วมมือกับสถาบันสิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติ และหน่วยงานทุกภาคส่วนในพื้นที่จังหวัดยะลา ปัตตานี และนราธิวาส อาทิ สาธารณสุขจังหวัด พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดและโรงพยาบาลยะลา เพื่อจัดตั้งเป็น “ธนาคารอุปกรณ์คนพิการจังหวัดชายแดนภาคใต้” ทำหน้าที่รวบรวมอุปกรณ์ที่ได้รับการสนับสนุน บริจาค หรือผลิตขึ้น และบูรณาการการทำงานกับสถานบริการสาธารณสุขในการค้นหา คัดกรอง สนับสนุน และส่งต่อการให้ความช่วยเหลือคนพิการ โดยที่ผ่านมาได้ให้ความช่วยเหลือเด็กพิการในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ เก้าอี้สุขใจ (สำหรับผู้ป่วยติดเตียงให้ประคองตัวขึ้นนั่ง) รองเท้าสั่งตัด เตียงฝึกยืน วอล์คเกอร์ อุปกรณ์ฟื้นการทรงตัว รวมทั้งสิ้นกว่าหนึ่งพันชุด

ส่วนความคืบหน้าโครงการ “ 1 ข้าราชการ 1 ครัวเรือนยากจน” ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนงานด้านคนพิการ เพื่อให้การช่วยเหลือแบบตรงจุด ขณะนี้เจ้าหน้าที่ ศอ.บต. ได้ดำเนินการสำรวจครัวเรือนยากจนทั้ง 379 ครัวเรือนเรียบร้อยแล้ว จากนี้จะเป็นการนำข้อมูลเข้าสู่ที่ประชุมเพื่อจำแนกปัญหาของแต่ละครัวเรือนที่พบใน 5 มิติ คือ จนสุขภาพ จนรายได้ จนการศึกษา จนความเป็นอยู่ และจนการเข้าถึงสวัสดิการของรัฐ เพื่อนำมาแก้ไขให้เกิดความยั่งยืน โดยตั้งเป้าให้เป็นครัวเรือนต้นแบบ เพื่อดำเนินการให้ครอบคลุม 13,000 ครัวเรือนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ในปีงบประมาณต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง