รมว.ศธ. เตรียมปรับระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนและระบบแนะแนว หลังกรณีนักเรียนอายุ 14 ปี ฆ่าตัวตาย ย้ำโรงเรียนต้องเป็นบ้านหลังที่สอง ครูพร้อมช่วยเหลือสนับสนุนเด็กทุกเรื่องอย่างเต็มที่
น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงกรณีเด็กหญิงอายุ 14 ปี ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดพัทลุง ฆ่าตัวตาย ว่า ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวแล้ว และมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เบื้องต้นรับทราบข้อมูลว่าเป็นการสื่อสารทำความเข้าใจกันน้อยเกินไป โดยมีปัญหาเกิดขึ้นสองประเด็น คือ ปัญหาจากครอบครัว และเรื่องการเรียนที่เปลี่ยนโรงเรียน เนื่องจากทราบว่าผู้ปกครองต้องการให้เด็กย้ายไปโรงเรียนใหม่ แต่เด็กต้องการจะเรียนในโรงเรียนเดิม สิ่งที่เกิดขึ้นถือเป็นบทเรียนให้ต้องกลับมาตระหนักถึงบทบาทการแนะแนวในโรงเรียนมากขึ้น ซึ่งระบบการแนะแนวในโรงเรียนจะต้องมีความเข้มแข็งมากกว่านี้ เพราะนโยบายหลักของกระทรวงศึกษาธิการ ต้องการสร้างความปลอดภัยให้เกิดขึ้นในสถานศึกษาในทุกมิติ
ต่อจากนี้ไป ระบบการแนะแนวในโรงเรียนจะต้องปรับปรุงใหม่ทำให้มีความเข้มข้น ครูต้องเข้าถึงปัญหาของนักเรียนเป็นรายบุคคลไม่ว่าจะเป็นปัญหาครอบครัว และการเรียน อย่างไรก็ตาม บริบทของโรงเรียนมีความแตกต่างกัน ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นจึงมีความซับซ้อน แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน หรือระบบการแนะแนวจะต้องทำให้มีประสิทธิภาพ ไม่ใช่เป็นการแนะแนวเรื่องการเรียนต่อเพียงอย่างเดียว แต่ต้องแนะแนวไปถึงการดูแลสภาพจิตของนักเรียน และการปูเส้นทางในอนาคตให้แก่นักเรียนด้วย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ยังกล่าวด้วยว่า ครูต้องสร้างความเข้าใจให้แก่นักเรียนมีความรู้สึกอบอุ่นใจ โรงเรียนคือบ้านหลังที่สองของเด็ก และมีครูที่พร้อมช่วยเหลือสนับสนุนเด็กทุกเรื่องอย่างเต็มที่ เพราะเด็กทุกคนต้องมีโอกาสได้เรียน พร้อมการจัดสรรทุนการศึกษาของทุกโรงเรียน
