ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป รัฐบาลได้ผ่อนปรนมาตรการเดินทางเข้าประเทศ โดยการปรับการลงทะเบียนในระบบ Thailand Pass ให้ลงทะเบียนเฉพาะผู้เดินทางต่างชาติ ส่วนคนไทยไม่ต้องลงทะเบียน Thailand Pass และยกเลิกการกักตัว ในกลุ่มที่ไม่ได้รับวัคซีน หรือได้รับไม่ครบ และไม่มีผลตรวจ สามารถตรวจ Pro- ATK เมื่อถึงสนามบิน ในส่วนของการการเดินรถโดยสารระหว่างประเทศ
นายสัญลักข์ ปัญวัฒนลิขิต กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด หรือ บขส. เปิดเผยว่า บขส. เตรียมกลับมาเปิดให้บริการเดินรถเส้นทางระหว่างประเทศไทย -สปป.ลาว เพิ่มเติมอีก 9 เส้นทาง จากเดิม ที่เปิดให้บริการในเส้นทางมุกดาหาร-สะหวันนะเขต ไปแล้วเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา จำนวน 1 เส้นทาง รวมเป็น 10 เส้นทาง ประกอบด้วย เส้นทางหนองคาย – นครหลวงเวียงจันทร์, อุดรธานี – นครหลวงเวียงจันทร์, อุบลราชธานี – เมืองปากเซ, ขอนแก่น – นครหลวงเวียงจันทร์, กรุงเทพมหานคร – นครหลวงเวียงจันทร์, นครพนม – ท่าแขก, อุดรธานี – ท่าอากาศยานอุดรฯ – หนองคาย – วังเวียง, เชียงราย – แขวงบ่อแก้ว และ เส้นทางเลย – แขวงหลวงพระบาง ทั้งนี้คาดว่าจะเริ่มเปิดให้บริการได้ในวันที่ 15 มิถุนายนนี้ ส่วนเส้นทางระหว่างประเทศไทย-สปป.ลาว จำนวน 3 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางเชียงใหม่ – แขวงหลวงพระบาง, กรุงเทพมหานคร – เมืองปากเซ, น่าน – แขวงหลวงพระบาง และเส้นทางระหว่างประเทศไทย-กัมพูชา จำนวน 2 เส้นทาง ได้แก่เส้นทาง กรุงเทพมหานคร – อรัญประเทศ – ปอยเปต – เสียมราฐ, กรุงเทพมหานคร – อรัญประเทศ – ปอยเปต – พนมเปญ ยังไม่เปิดให้บริการ สำหรับการเปิดให้บริการเดินรถเส้นทางในประเทศ ปัจจุบัน บขส. ยังคงเปิดให้บริการ ในเส้นทางภาคเหนือ 14 เส้นทาง รวม 40 เที่ยววิ่ง , ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก 24 เส้นทาง 54 เที่ยววิ่ง และเส้นทางภาคใต้ 13 เส้นทาง 36 เที่ยววิ่ง
นอกจากนี้ บขส. ยังเร่งศึกษาความเป็นไปได้ในการใช้รถโดยสารไฟฟ้า หรือ EV มาใช้เป็นรถโดยสาร ซึ่งในเบื้องต้นผลการศึกษา พบว่า เส้นทางในระยะทางไม่เกิน 400 กิโลเมตร เหมาะสมที่จะใช้รถพลังงานไฟฟ้า ส่วนในระยะทางที่ไกลกว่านั้น รถที่ใช้น้ำมันดีเซล ยังคงมีความเหมาะสมอยู่ จึงต้องทำการวิเคราะห์ เพื่อจัดลำดับในการใช้รถไฟฟ้า หรือรถน้ำมันดีเซล ก่อนนำเสนอคณะอนุกรรมการกำกับกลยุทธ์และบริหาร และคณะกรรมการพิจารณาต่อไปภายในเดือนมิถุนายน 2565 ทั้งนี้มั่นใจว่า การนำรถโดยสารไฟฟ้ามาให้บริการจะช่วยลดต้นทุนการเดินลดได้ร้อยละ 20-30 เนื่องจากราคาน้ำมันดีเซลในปัจจุบันปรับตัวสูงขึ้นมาก แต่การให้บริการด้วยรถโดยสารไฟฟ้านั้น จะต้องมีการสถานีชาร์ตไฟฟ้า รองรับระหว่างเส้นทางวิ่งด้วย จึงต้องมีการศึกษาให้รอบคอบ