นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงกรณีที่มีข่าวในสื่อออนไลน์ว่า ซี กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของเครือช้อปปี้ที่ตั้งอยู่ประเทศสิงค์โปร์ จะดำเนินการเลิกจ้างลูกจ้างในต่างประเทศรวมถึงประเทศไทย กระทรวงแรงงานได้สั่งการให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ส่งพนักงานตรวจแรงงานเข้าตรวจสอบหาข้อเท็จจริงทันที ซึ่งจากการสอบถาม บริษัทแจ้งว่ามีการเลิกจ้างลูกจ้างในเครือช้อปปี้ที่อยู่ในประเทศไทยจริง
โดยเป็นการเลิกจ้างลูกจ้างจำนวน 300 คน ซึ่งเป็นลูกจ้างที่อยู่ในสังกัด 3 บริษัท ได้แก่ บริษัท ช้อปปี้(ประเทศไทย) จำกัด บริษัท ช้อปปี้เพย์ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท ช้อปปี้ฟู้ด จำกัด บริษัทได้เรียกลูกจ้างเข้ามาพบเป็นรายบุคคลเพื่อแจ้งการเลิกจ้าง และให้การเลิกจ้างมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2565 เป็นต้นไป
ซึ่งการเลิกจ้างดังกล่าว บริษัทยืนยันว่าจะจ่ายค่าชดเชย และสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายให้แก่ลูกจ้างอย่างครบถ้วน ทั้งนี้ ได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดพร้อมทั้งชี้แจงสิทธิหน้าที่และสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายคุ้มครองแรงงานและประกันสังคมให้แก่นายจ้างและลูกจ้าง
นอกจากนั้นให้เตรียมจัดหางานรองรับกรณีลูกจ้างมีความประสงค์จะหางานใหม่ หากลูกจ้างต้องการเปลี่ยนสายงานหรือเพิ่มทักษะด้านอาชีพก็สามารถเข้ารับการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานได้อย่างไรก็ตาม หากมีลูกจ้างได้รับผลกระทบจากกรณีดังกล่าวจะดำเนินการช่วยเหลือลูกจ้างให้ได้รับสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายโดยเร็ว
นายนิยม สองแก้ว อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กล่าวต่อว่าได้มอบหมายให้พนักงานตรวจแรงงาน สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 5 ประสานกับประกันสังคมพื้นที่ 3 จัดหางานพื้นที่ 10 สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 13 กรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่เพื่อชี้แจงข้อกฎหมายและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ตามกฎหมายคุ้มครองแรงงานให้นายจ้างรับทราบเพื่อจะสามารถปฏิบัติตามกฎหมายได้อย่างถูกต้อง
ทั้งนี้ กสร. จะติดตามสถานการณ์การจ้างงานของบริษัทอย่างใกล้ชิดหากมีลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบถูกเลิกจ้างโดยไม่ได้รับค่าชดเชย ต้องการได้รับการช่วยเหลือ หรือต้องการคำปรึกษาสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 5 โทรศัพท์ 02 247 7903 หรือโทรสายด่วน 1506 กด 3 หรือ 1546