นายพิเชษฐ์ เจียมบุรเศรษฐ์ นายกสมาคมกิจการรถโดยสารประจำทางไทย กล่าวว่า มติที่ประชุมผู้ประกอบการขนส่ง และบริษัทรถร่วมทั่วประเทศ สรุปว่าไม่สามารถแบกภาระต้นทุนที่สูงขึ้นจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิง หลังจากสัปดาห์ก่อนต้องโดยต้องแบกต้นทุนเพิ่มขึ้นถึงเที่ยวละกว่า 1,400 บาท และเพิ่มเป็น 1,600 บาทในสัปดาห์นี้
นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า แนวโน้มน้ำมันเชื้อเพลิง ยังจะปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นเพื่อประคับประคองธุรกิจ ไม่ให้ต้องแบกภาระจนต้องปิดกิจการ ผู้ประกอบการขนส่งและบริษัทฯ รถร่วมจึงมีมติกำหนดให้ลดเที่ยววิ่งลง 80% ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.นี้
โดยจะมีการประเมินสถานการณ์ว่าจะสามารถดำเนินธุรกิจต่อได้หรือไม่ ประชาชนผู้เดินทางตรวจสอบเที่ยววิ่งในแต่ละวันได้ ทางเว็บไซต์ของทุกบริษัทฯ มีรายละเอียดเส้นทางของแต่ละบริษัทฯดังนี้
บริษัท ไทยสงวนทัวร์ จำกัด 3 เส้นทาง
บริษัท สมบัติทัวร์ จำกัด 32 เส้นทาง
บริษัท กิตติสุนทร จำกัด 5 เส้นทาง
บริษัท จักพงษ์ทรานสปอร์ต จำกัด 2 เส้นทาง
บริษัท ลาดหลุมแก้วขนส่ง 2 เส้นทาง
บริษัท ชินวรเดินรถขนส่ง 1 เส้นทาง
บริษัท 407 พัฒนา จำกัด 9 เส้นทาง
บริษัท ปิยะรุ่งเรืองทัวร์ จำกัด 5 เส้นทาง
บริษัท ส.วิริยะทรานสปอร์ต จำกัด 2 เส้นทาง
บริษัท ไทยสงวนทัวร์ จำกัด 3 เส้นทาง
บริษัท ชัยนาททัวร์ จำกัด 2 เส้นทาง
บริษัท ชัยพัฒนาขนส่งเชียงใหม่ จำกัด 16 เส้นทาง
บริษัท ปักธงชัยร่วมใจเดินรถ จำกัด 2 เส้นทาง
บริษัท นครชัยทัวร์ จำกัด 4 เส้นทาง
บริษัท แอร์โคราชพัฒนา จำกัด 1 เส้นทาง
บริษัท นครชัย21 จำกัด 1 เส้นทาง
บริษัท วิศวกรเสนา จำกัด 3 เส้นทาง
บริษัท วัชรินทร์ทัวร์ จำกัด 1 เส้นทาง
บริษัท นครชัยขนส่ง จำกัด 5 เส้นทาง
บริษัท ราชสีห์ทัวร์ จำกัด 1 เส้นทาง
บริษัท โชคชัยเดินรถ จำกัด 1 เส้นทาง
บริษัท นครอรัญ จำกัด 1 เส้นทาง
บริษัท ครบุรี เดินรถ จำกัด 1 เส้นทาง
ราชสีมา เดินรถ จำกัด 1 เส้นทาง
โพนทวีชัย จำกัด 5 เส้นทาง
บริษัท เทพอู่ทองขนส่ง จำกัด 5 เส้นทาง
บริษัท นครชัยแอร์ จำกัด 29 เส้นทาง
นายกสมาคมกิจการรถโดยสารประจำทางไทย กล่าวอีกว่า การลดเที่ยววิ่งลง 80% ในครั้งนี้ อาจส่งผลกระทบต่อผู้เดินทาง แต่เนื่องจากเป็นความจำเป็นเพราะผู้ประกอบการไม่สามารถแบกรับต้นทุนน้ำมันต่อไปได้ เพราะอัตราค่าโดยสารในปัจจุบัน เป็นอัตราที่ใช้เมื่อปี 2562
ขณะที่อัตราค่าน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ลิตรละ 27 บาท ขณะที่ปัจจุบัน ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงปรับขึ้นมาอยู่ที่ลิตรละ 35 บาท และยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นหากคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง ยังคงเพิกเฉยไม่นำอัตราโครงสร้างค่าโดยสาร ตามมติคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางเมื่อปี 2548 มาใช้ ผู้ประกอบการคงต้องประกาศหยุดเดินรถในที่สุด