นายกิตติกานต์ จอมดวง จารุวรพลกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก. ชี้แจงกรณีมีการเผยแพร่ตามสื่อต่างๆว่ารถโดยสารประจำทางขาดระยะ และรอรถโดยสารประจำทางที่ใช้ระยะเวลานาน ว่า เป็นปัญหาที่อยู่ระหว่างการแก้ไข ทั้งการจัดหารถโดยสารพลังงานสะอาด การวิเคราะห์อัตรากำลังที่เหมาะสมกับจำนวนรถโดยสารประจำทางที่มีอยู่ รวมถึงการปรับปรุงแผนการเดินรถในแต่ละช่วงเวลา ปัจจุบัน ขสมก.มีรถโดยสารประจำทางทั้งหมด 2,885 คัน อายุการใช้งานตั้งแต่ 5-25 ปีขึ้นไป ส่งผลให้มีสภาพชำรุดทรุดโทรม แต่ได้จัดให้มีการซ่อมบำรุงอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้รองรับการให้บริการกับประชาชนได้อย่างต่อเนื่อง หลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ประกอบกับนโยบายเปิดประเทศของรัฐบาล ส่งผลให้มีผู้โดยสารใช้บริการ ขสมก.ประมาณ 700,000 คนต่อวัน ในเที่ยววิ่งประมาณ 19,000 เที่ยวต่อวัน แต่ยังน้อยกว่าก่อนเกิดการแพร่ระบาดโควิดประมาณร้อยละ 16 และมากกว่าช่วงสถานการณ์โควิดร้อยละ 40
ผู้อำนวยการ ขสมก. กล่าวอีกว่า การปรับปรุงแผนการเดินรถด้วยจะต้องนำปัจจัยที่มีการเปลี่ยนแปลง และทรัพยากรที่มีอยู่มาปรับร่วมกัน เพื่อให้มีความเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยเริ่มจัดลำดับเส้นทางที่มีเรื่องร้องเรียนหรือที่สำรวจพบว่าเป็นเส้นทางวิกฤตก่อน พบว่ามี 27 เส้นทางที่ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน จากเส้นทางทั้งหมด107 เส้นทาง ในการหมุนเวียนรถให้มีประสิทธิภาพ และมีความเหมาะสมกับจำนวนผู้ใช้บริการ ลดปัญหาการขาดระยะของรถเมล์ ซึ่งปัจจุบัน ขสมก.ได้ปรับปรุงแผนการเดินรถในแต่ละช่วงเวลาแล้วเสร็จ ทั้ง 107 เส้นทาง พร้อมทดสอบแผนการเดินรถ ด้วยการปล่อยรถตามความถี่และจำนวนตามแผนการเดินรถที่ปรับปรุงใหม่ ให้มีความเหมาะสมต่อการให้บริการ และจะประเมินสถานการณ์ทุกวันอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำมาปรับปรุงแผนให้มีความยืดหยุ่นและมีความเหมาะสมต่อไป