นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากร ในฐานะประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า คณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล มีมติให้เพิ่มปริมาณสลากจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์ม หรือ ‘สลากดิจิทัล’ อีก 2 ล้านฉบับ ในงวดวันที่ 1 สิงหาคม 2565 โดยจะเริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 17 กรกฎาคม 2565 และจะติดตามผลการจำหน่ายสลากอย่างใกล้ชิด หากผลการตอบรับขายหมดในเวลารวดเร็วเช่นที่ผ่านมา ก็จะพิจารณาเพิ่มปริมาณสลากในงวดถัดไปอีก 2 ล้านฉบับ
ทั้งนี้ เป็นการเพิ่มแบบค่อยเป็นค่อยไป และรักษาสมดุลระหว่างสลากใบและระบบดิจิทัล โดยประชาชนสามารถซื้อสลากหมายเลขที่ต้องการได้ในราคา 80 บาท โดยมีระยะเวลาในการเลือกซื้อได้นานขึ้น ผู้ขาย ‘สลากดิจิทัล’ ก็มีโอกาสจำหน่ายหมดสลากได้หมด โดยไม่ส่งผลกระทบรุนแรงกับผู้ขาย ‘สลากใบ’
ส่วนสลากที่จะนำมาเพิ่มในระบบดิจิทัลนั้น จะมาจากสลากในระบบซื้อจอง ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากสลากของตัวแทนจำหน่ายที่ถูกยกเลิกสัญญา เนื่องจากนำสลากไปขายต่อ
นายลวรณ กล่าวว่า การเพิ่มปริมาณ ‘สลากดิจิทัล’ จะพิจารณาความต้องการของประชาชนผู้ซื้อสลาก และต้องพิจารณาถึงระยะเวลาในการขายสลากดิจิทัล ที่ควรจะมีเวลาในการขายตั้งแต่วันแรกจนถึงที่ขายหมด ประมาณ 7-10 วัน เพื่อให้มีเวลามากพอที่จะสร้างกลไกราคาให้อยู่ที่ 80 บาท
ทั้งนี้ ปริมาณสลากที่เหมาะสมในการเพิ่มแต่ละครั้งไม่เกิน 2 ล้านฉบับ และจำนวนสูงสุดที่จะเพิ่มไม่เกิน 20 ล้านฉบับ ภายในสิ้นปีนี้
สำหรับโครงการจุดจำหน่าย ‘สลาก 80’ ที่สำนักงานสลากฯ เริ่มดำเนินการมาเป็นเวลา 1 ปีแล้ว ปัจจุบัน มีจุดจำหน่ายสลาก 80 ทั้งหมด 754 จุด ทั่วประเทศ และยังมีบางส่วนอยู่ระหว่างทำสัญญา ตั้งแต่เดือนสิงหาคมนี้เป็นต้นไป จะมีจุดจำหน่ายสลาก 80 ทั่วประเทศ 1,077 จุด และภายในปีนี้ สำนักงานฯ จะนำร่องขยายจุดจำหน่ายสลาก 80 ซึ่งจำหน่ายสลากผ่านแอป “เป๋าตัง” ไปที่สถานีบริการน้ำมันทั่วประเทศ ไม่น้อยกว่า 2,000 จุด และหากได้รับการตอบรับที่ดี จะขยายเพิ่มต่อไปอีก