กพช. เห็นชอบให้ ปตท.จัดหา LNG สัญญาระยะยาว 1 ล้านตัน/ปี เพิ่มความมั่นคงทางพลังงานและโปร่งใส ตรวจสอบได้

  • บอร์ด คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ มีมติเห็นชอบให้ ปตท. จัดหาก๊าซธรรมชาติเหลว 1 ล้านตัน/ปี เพิ่มจากสัญญาเดิมที่ลงนามแล้ว 5.2 ล้านตัน/ปี เพื่อเพิ่มความมั่นคงทางพลังงานของประเทศ
  • นายกฯย้ำสถานการณ์พลังงานในตอนนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน พร้อมกำชับให้มีการกำกับดูแลการจัดหาก๊าซธรรมชาติเหลวให้โปร่งใส ตรวจสอบได้ และเกิดการแข่งขันอย่างเสรี

วันที่ 6 ก.ค. 65 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ครั้งที่ 5/2565 ผ่านระบบ Video Conference ร่วมกับนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาข้อเสนอการจัดหาก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) สัญญาระยะยาวของ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)

โดย กพช. มีมติเห็นชอบให้บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) จัดหา LNG สัญญาระยะยาว ปริมาณ 1 ล้านตันต่อปี เพิ่มเติมจากสัญญาระยะยาวที่มีการลงนามแล้ว 5.2 ล้านตันต่อปี และรับทราบในรายละเอียดสาระสำคัญการจัดหา LNG ซึ่งหน่วยงานที่รับผิดชอบจะไปดำเนินการ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือ เร่งดำเนินการต่อไป เพื่อจัดหาก๊าซธรรมชาติให้เพียงพอในระยะยาว และมอบหมายให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน เป็นผู้กำกับดูแลให้ราคาเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ กพช. กำหนด และให้ ปตท. นำสัญญาซื้อขาย LNG สัญญาระยะยาว เสนอคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) พิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนดำเนินการต่อไป

ด้านนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงสถานการณ์ด้านพลังงานขณะนี้ เป็นเรื่องเร่งด่วนที่รัฐบาลและหน่วยงานภาครัฐทั้งหมดจะต้องช่วยกันแก้ไขปัญหา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน โดยคำนึงถึงหลักการ ข้อกฎหมาย ข้อเท็จจริงต่าง ๆ ทั้งหมด พร้อมย้ำว่าสิ่งสำคัญในวันนี้คือการขับเคลื่อนไปสู่การประหยัดพลังงาน ที่ต้องมีรูปแบบการประหยัดพลังงานที่จะเกิดผลตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง ปลายทาง และส่งผลกับประชาชน ซึ่งประชาชนต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมช่วยกันประหยัดพลังงานด้วย

ซึ่งข้อเสนอการจัดหาก๊าซ LNG ของ ปตท. เป็นการลดความเสี่ยงในการจัดหา LNG ในอนาคต และเป็นส่วนสำคัญที่จะเพิ่มความมั่นคงทางพลังงานของประเทศ

อย่างไรก็ตาม นายกฯ ขอฝากให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ  กกพ. ได้ติดตามผลกระทบต่อราคาอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อราคาพลังงานในประเทศในอนาคต เพราะการนำเข้าก๊าซจะเกิดขึ้นในปี 2569 ในขณะที่ความผันผวนด้านราคาที่เกิดขึ้นในปัจจุบันอาจจะสิ้นสุดลงแล้ว หรืออาจจะมีต่อไปก็ได้ ดังนั้นจะเสี่ยงไม่ได้ โดยต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ การแข่งขันของผู้ประกอบการ รวมทั้งขอให้ กกพ. กำกับดูแลการจัดหา LNG ให้เกิดความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เป็นไปตามมาตรฐานสากล ให้เกิดการแข่งขันอย่างเสรี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง