นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวภายหลังประชุมติดตามผลการดำเนินงาน คณะกรรมการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษาเขตพื้นที่การศึกษา ในพื้นที่ภาคภาคเหนือ-ภาคใต้ ว่า การแก้ไขปัญหาหนี้สินครู เป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล โดยภาพรวมของหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา มีสหกรณ์ออมเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ จึงวางแนวทางแก้ไขโดยใช้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูเป็นฐาน และบูรณาการความร่วมมือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากคณะกรรมการกำกับการแก้ไขปัญหาหนี้สินของประชาชนรายย่อยเป็นอย่างดี โดยได้จัดตั้งสถานีแก้หนี้ ทั้งในระดับเขตพื้นที่การศึกษา และระดับจังหวัด 558 สถานี ให้เป็นกลไกหลักระดับพื้นที่ ทำหน้าที่เป็นคนกลางในการช่วยเจรจาไกล่เกลี่ย ประนอมหนี้ และปรับโครงสร้างหนี้ให้กับครู พร้อมเร่งดำเนินการแก้ไขปรับเปลี่ยนกฎเกณฑ์ สร้างเครื่องมือทางการเงินเป็นปัจจัยเสริม สนับสนุนให้การแก้ไขปัญหาหนี้สินครูให้ดำเนินการได้รวดเร็ว โดยเจรจากับสถาบันการเงินและชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งเบื้องต้นได้รับการสนับสนุน เป็นเงิน 33,000 ล้านบาท และธนาคารออมสิน สนับสนุนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ เป็นเงิน 5,000 ล้านบาท
การดำเนินงานตั้งแต่เดือน มกราคม – มิถุนายนที่ผ่านมา มีครูและบุคลากรทางการศึกษา ได้รับการปรับโครงสร้างหนี้แล้ว 3,623 ราย วงเงินกว่า 5.6 พันล้านบาท เชื่อมั่นว่า หากสถานีแก้หนี้ครูทุกแห่งรวมพลังมุ่งมั่นทำงานแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง จะสามารถเปลี่ยนชีวิตเพื่อนครู และครอบครัวให้ดีขึ้นได้แน่นอน