พบ รร.หลายแห่งการ์ดตก ย้ำ ทุกแห่งต้องทำตามมาตรให้เข้มข้น ยืนยันไม่ ประกาศปิด รร.อีกแล้ว

นายสุภัทร จำปาทอง   ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า  ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19  (ศบค.) ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้รายงานในที่ประชุมว่ามีการติดเชื้อมากขึ้นในกลุ่มนักเรียน โดยสถานการณ์การเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 ตั้งแต่วันที่ 17 พ.ค.เป็นต้นมา กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้รับรายงานการติดเชื้อโควิดของนักเรียนหลายหมื่นคน และลดจำนวนลงมาเรื่อยๆ แต่เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้พบกราฟตัวเลขจำนวนนักเรียนติดเชื้อกลับพุ่งสูงขึ้นมาอีก แต่ก็ยังเป็นจำนวนตัวเลขที่ไม่น่ากังวล เพราะส่วนใหญ่โรงเรียนสังกัดศธ.ที่พบนักเรียนติดเชื้อจำนวนตัวเลขนักเรียนที่ติดโควิดอยู่ในสัดส่วนประมาณ 1-2 คนต่อห้องเรียน ซึ่งโรงเรียนที่พบนักเรียนติดเชื้อแต่ละแห่งก็ดำเนินการตามมาตรการของศธ.แผนเชิญเหตุ คือ ปิดเฉพาะชั้นเรียน และระดมทำความสะอาดพ่นยาฆ่าเชื้อ จากนั้นก็ดำเนินการเรียนการสอนตามปกติ โดยโรงเรียนสามารถบริหารจัดการสถานการณ์ได้ตามความเหมาะสม

ปลัดศธ.กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้ในส่วนของโรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัย จ.ลำปาง ที่ประกาศปิดโรงเรียนและใช้วิธีเรียนออนไลน์ทั้งหมดนั้นได้รับรายงานว่า โรงเรียนจัดกิจกรรมนอกห้องเรียนรวมกลุ่มหลายร้อยคนจึงทำให้เกิดการติดเชื้อ แต่ไม่มีใครอาการน่าเป็นห่วง ขณะที่โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัยได้รับรายงานว่าเป็นการติดเชื้อสะสม 700 คนตั้งแต่เปิดภาคเรียนเดือนพ.ค. ซึ่งรักษาหายหมดแล้ว แต่ขณะนี้ยอดสะสมเหลือเพียง 200 คน และอยู่ระหว่างการรักษาตัว ซึ่งโรงเรียนได้ดำเนินการสอบสวนโรคร่วมกับสาธารณสุขในพื้นที่พบ เป็นการติดเชื้อจากโรงอาหารในโรงเรียน เพราะยอมรับว่ามาตรการอาจหละหลวมในเรื่องการสวมใส่หน้ากากอนามัย และการเว้นระยะห่างทางสังคม รวมถึงได้สำรวจเส้นทางการกลับบ้านของนักเรียนหลังเลิกเรียนพบว่าเมื่อเลิกเรียนเด็กไม่ได้กลับบ้านในทันที แต่มีการแวะทำกิจกรรมพักผ่อนตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆจึงอาจทำให้ติดเชื้อแต่ไม่แสดงอาการ และเมื่อมาโรงเรียนจึงเป็นการนำมาแพร่เชื้อเกิดขึ้นในโรงเรียน ดังนั้นตนขอกำชับให้สถานศึกษาทุกแห่งเข้มงวดมาตรการ 6-6-7 ที่ประกอบไปด้วย เว้นระยะห่าง สวมหน้ากาก  ล้างมือ  คัดกรองวัดไข้ ลดการแออัด  ใช้ช้อนกลางส่วนตัว ลงทะเบียนเข้าออกโรงเรียน สำรวจตรวจสอบ กักกันตัวเอง และมาตรการเข้มเปิดโรงเรียน ไป-กลับ  จัดระบบให้บริการอาหารตามหลักสุขาภิบาลอาหารและหลักโภชนาการ การระบายอากาศภายในอาคารเรียน พร้อมควบคุมดูแลการเดินทางจากบ้านไปโรงเรียนอย่างเข้มข้น

“ยืนยันว่าเราจะไม่มีการประกาศปิดสถานศึกษาเพื่อเรียนออนไลน์แล้ว ซึ่งการเรียนออนไลน์จะเป็นแผนสำรองเท่านั้น เพราะการเรียนที่ดีที่สุดคือการเรียนในห้องเรียน และทุกคนจะต้องอยู่กับโรคนี้ให้ได้ภายใต้การป้องกันดูแลตัวเองอย่างเข้มงวด เนื่องจากสถานการณ์โควิดจะอยู่ในระดับวิกฤตขั้นสูงสุดภายใน 1-2 เดือนนี้แต่จากนั้นจะเข้าสู่สถานการณ์ของโรคที่เป็นปกติ ซึ่งอาจจะนำไปสู่การประกาศเป็นโรคประจำถิ่นต่อไปได้ สำหรับการฉีดวัคซีนของนักเรียนนั้นหากผู้ปกครองคนใดยังไม่อนุญาตให้บุตรหลานของตัวเองฉีดวัคซีนก็ขอให้คิดใหม่ เพราะวัคซีนสามารถลดอาการรุนแรงของโรคได้ โดยขณะนี้การฉีดวัคซีนของนักเรียนอายุระหว่าง 12-17 ปีได้รับวัคซีนไปแล้วกว่า 20%จากจำนวนนักเรียนทั้งหมดประมาณ 5 ล้านคน” ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า

ข่าวที่เกี่ยวข้อง