พบเด็กเกือบ 6 แสนคนอยู่ในภาวะเสี่ยงต่อการ “บกพร่องทางการเรียนรู้”

ว่าที่ ร.ต.ธนุ วงษ์จินดา รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า  ในการประชุมผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ทั่วประเทศ  ได้ชี้แจงผลการติดตามค้นหาเด็กหลุดจากระบบการศึกษา โดยจากข้อมูล ณ วันที่ 31 พฤษภาคม สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้สรุปภาพรวมการติดตามค้นหาเด็กตกหล่น และเด็กออกกลางคัน เฟสที่ 1 มีเด็กตกหล่นและออกกลางคันทั้งหมด 28,134 คน ดังนี้ ติดตามตัวพบ และกลับเข้าระบบการศึกษา ภาคบังคับ 17,467 คน พ้นภาคบังคับ 2,586 คน รวม 20,053 คน ติดตามตัวพบแต่ไม่กลับเข้าระบบการศึกษา ภาคบังคับ 6,739 คน พ้นภาคบังคับ 616 คน รวม 7,355 คน ติดตามตัวไม่พบ ภาคบังคับ 381 คน พ้นภาคบังคับ 47 คน รวม 428 คน กำลังติดตาม ภาคบังคับ 122 คน พ้นภาคบังคับ 104 คน รวม 266 คน และเสียชีวิต ภาคบังคับ 64 คน พ้นภาคบังคับ 8 คน รวม 72 คน นอกจากนี้ยัง ได้เน้นย้ำกับผู้อำนวยการ สพท.และผู้อำนวยการโรงเรียน ว่าขณะนี้สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ สพฐ.อยู่ระหว่างออกแบบโครงการการจัดการศึกษาในรูปแบบเรียนรวมใหม่ เพราะที่ผ่านมาพบปัญหาว่า เขตพื้นที่และศูนย์การศึกษาพิเศษระดับจังหวัดทำงานร่วมกันน้อย และปัจจุบันมีนักเรียนอยู่ในโครงการเรียนรวมกว่า 5.8 แสนคน ซึ่งมีภาวะเสี่ยงต่อการบกพร่องทางการเรียนรู้รูปแบบต่างๆ เช่น เป็นเด็กกลุ่มเสี่ยงที่จะบกพร่องทางการเรียนรู้ หรือเด็กแอลดี กว่า 3.6 แสนคน เป็นต้น เมื่อลงไปดูสำรวจเด็กเหล่านี้ถึงโรงเรียน และห้องเรียน พบว่ากระบวนการคัดกรอง กระบวนการแก้ไข กระบวนการดูแลช่วยเหลือ และการส่งต่อเด็ก ยังขับเคลื่อนไม่สมบูรณ์

ว่าที่ ร.ต.ธนุกล่าวอีกว่า เมื่อพบปัญหานี้ สพฐ.ไม่นิ่งนอนใจ ได้เร่งวางแผนจัดระบบการศึกษาในรูปแบบเรียนรวมใหม่ รวมทั้งพัฒนาคู่มือการคัดกรองนักเรียน และอบรมพัฒนาบุคคลที่จะมาคัดกรองนักเรียนใหม่ทั้งหมด เมื่อได้คู่มือแล้วจะส่งให้ สพท.กระจายไปโรงเรียน โดยขอให้ สพท.ย้ำกับผู้อำนวยการโรงเรียนว่าต้องเป็นประธานการคัดกรองนักเรียน และการคัดกรองนักเรียนจะต้องมีผู้ที่ผ่านการอบรม หรือเป็นผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจเด็กเหล่านี้เป็นอย่างดีมาร่วมด้วย

“เมื่อพบนักเรียนมีภาวะเสี่ยงด้านต่างๆ เช่น บกพร่องทางการเรียนรู้ การอ่าน การเขียน การคิดคำนวณ เป็นต้น โจทย์สำคัญต่อมาคือจะแก้ไขอย่างไร จึงอยากให้ผู้อำนวยการ สพท.และผู้อำนวยการโรงเรียนกลับมาวางระบบเอาใจใส่ดูแล แก้ไขปัญหานี้โดยเร็ว โดยเฉพาะการคัดกรองและส่งต่อเด็ก เมื่อคัดกรองนักเรียนพบว่านักเรียนบกพร่องเรื่องใดจะต้องมีระบบส่งต่อไปหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยเหลือโดยเร็ว เรื่องนี้สำคัญ สพฐ.ตั้งเป้าลดนักเรียนที่บกพร่องด้านต่างๆ ให้ได้มากที่สุด และแก้ปัญหาให้เด็กหายจากความบกพร่องในด้านต่างๆ ด้วย” ว่าที่ ร.ต.ธนุกล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง