‘แบงก์ชาติ’ ตอบชัด 4 เรื่องจริง! เกี่ยวกับค่าเงินบาทไทย

นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)  ได้ออกมาชี้แจงประเด็นความเข้าใจผิดเกี่ยวกับส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย ค่าเงินบาท เงินทุนเคลื่อนย้าย และเงินทุนสำรอง โดยระบุว่า “มีหลายเรื่องไม่ตรงกับความเป็นจริง” ทั้งเรื่องส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย ไทยต่ำกว่าสหรัฐ, เงินทุนไหลออก ไปหาผลตอบแทนที่ดีกว่า, ค่าเงินบาทอ่อน, เงินทุนสำรองปรับลดลง และเสถียรภาพการเงินไทยเปราะบาง ใกล้เข้าสู่วิกฤติคล้ายปี 40

1.ส่วนต่างดอกเบี้ยไทยกับสหรัฐที่กว้างขึ้น เป็นปัจจัยเดียวที่ทำให้เงินทุนของไทยไหลออก เป็นเรื่องที่ “ไม่จริง”

–ความจริง คือ ส่วนต่างดอกเบี้ยไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่มีผลต่อเงินทุน แต่ยังมีปัจจัยอื่น เช่น การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ เสถียรภาพของเศรษฐกิจ ความเชื่อมั่นของนักลงทุน

-ตั้งแต่ต้นปี ไทยยังมีเงินทุนไหลเข้าสุทธิ ขณะที่ประเทศที่ดอกเบี้ยสูงกว่าสหรัฐ เช่น อินเดีย และอินโดนีเซีย ยังเผชิญเงินทุนไหลออก

2.เงินบาทอ่อนค่าลงมาก เพราะเงินทุนไหลออก เป็นเรื่องที่ “ไม่จริง”

–ความจริง คือ ตั้งแต่ต้นปี เงินบาทอ่อนค่าจาก ดอลลาร์สหรัฐ (USD) แข็งค่าเป็นหลัก และปกติเงินบาทมักเคลื่อนไหวจากปัจจัยภายนอก หรือทิศทางสกุลเงินต่างประเทศ ถึง 86%

-ช่วงที่มีเงินทุนไหลเข้าไทย เงินบาทก็อ่อนค่าได้

3.เงินทุนสำรองระหว่างประเทศ ลดลงมาก เพราะต้องใช้พยุงค่าเงินบาท เป็นเรื่องที่ “ไม่จริง”

–ความจริง คือ การเปลี่ยนแปลงของเงินทุนสำรองมาจาก 3 ปัจจัย ทั้งผลตอบแทนการลงทุน, การตีมูลค่าของสินทรัพย์ (Valuation) และการดำเนินนโยบายค่าเงินของ ธปท. ซึ่งสถานการณ์ปัจจุบัน การเปลี่ยนแปลงของเงินทุนสำรองฯ เกิดจากการตีมูลค่าสินทรัพย์กลับมาอยู่ในรูปแบบดอลลาร์สหรัฐเป็นหลัก เพราะดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า

-เงินทุนสำรองฯ ของประเทศอื่นๆ ปรับลดลงเช่นกัน (หลายประเทศไม่ได้เข้าพยุงค่าเงิน)

4.เงินทุนสำรองฯ ที่ลดลง จะกระทบเสถียรภาพการเงินไทย จนเกิดวิกฤติแบบปี 40 เป็นเรื่องที่ “ไม่จริง”

–ความจริง คือ เงินทุนสำรองฯ ของไทย รวมฐานะล่วงหน้าสุทธิ (net forward position) ล่าสุดอยู่ที่ 2.47 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 51% ของจีดีพี สูงเป็นอันดับ 12 และ 6 ของโลกตามลำดับ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง