ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กล่าวว่า วช. ในฐานะที่เป็นองค์กรสำคัญในการขับเคลื่อนงานวิจัยและนวัตกรรม โดยบูรณาการร่วมมือกับหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อประโยชน์ทางสังคมและเศรษฐกิจ ซึ่งในมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2565 มีผล
งานการวิจัยมากมายที่สามารถนำไปต่อยอดในเชิงสังคมและคุณภาพชีวิต ซึ่งผลพวงจากสถานการณ์โควิดที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า เด็กและเยาวชนที่ใช้ชีวิตกับสื่อออนไลน์มีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป ที่ส่งผลโดยตรงมาจากเกมออนไลน์ซึ่งตัวเลขจากการประเมินวิเคราะห์ในพฤติกรรมของเด็กและเยาวชนของทีมวิจัยกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข พบว่าเด็กมีพฤติกรรมก้าวแรงรุนแรงสูงขึ้น โดยเกี่ยวข้องกับหลายปัจจัยไม่ว่าจะเป็นเรื่องการดูแลของผู้ปกครอง ประวัติพฤติกรรมของเด็ก ซึ่งจะมีการศึกษาเชิงลึกเกี่ยวกับการส่งเสริมการทำหน้าที่ของครอบครัว การเลี้ยงดูที่มีความแตกต่างกันตามวัฒนธรรมในแต่ละภาค
.

แพทย์หญิงโชษิตา ภาวสุทธิไพศิฐ จิตแพทย์เชี่ยวชาญด้านจิตเวชเด็กและวัยรุ่น จากกรมสุขภาพจิต เปิดเผยว่าทีมงานวิจัยได้ให้ผู้ปกครองจากทั้ง 4 ภาค ได้ประเมินพฤติกรรมของเด็กว่าเข้าข่ายเป็นเด็กที่ก้าวร้าว และมีพฤติกรรมติดเกมหรือไม่ ซึ่งผลวิจัยพบว่าปัจจัยที่มี
ความสัมพันธ์กับพฤติกรรมรุนแรงของเด็กและเยาวชนอย่างมีนัยสำคัญคือ การเลี้ยงดูโดยผู้ปกครองที่ไม่ใช่พ่อแม่ เด็กมีประวัติพฤติกรรมรุนแรงมาก่อน เด็กมีโรคทางจิตเวช เด็กมีประวัติใช้สารเสพติด มีการทำหน้าที่ครอบครัวไม่ดี โดยภาวะติดเกม เด็กจะมีความบกพร่อง
ในการควบคุมการเล่น ความถี่ ระยะเวลาในการเล่นให้ความสำคัญกับเกมมากกว่าสิ่งที่ต้องทำในกิจกรรมชีวิตประจำวัน จนส่งผลกระทบทั้งทางร่างกาย การเรียนรู้ ด้านอารมณ์ และด้านความสัมพันธ์ในครอบครัวและกับเพื่อน ปัจจัยจากการออกแบบเกมให้มีลักษณะเสพติด
ได้มากขึ้นหรือลักษณะของเกมที่มีเนื้อหาการใช้ความรุนแรงต่อผู้อื่น ปัจจัยด้านจิตวิทยาในเด็กอายุน้อยจะมีโอกาสเสพติด เลียนแบบพฤติกรรมไม่เหมาะสมจากเกมได้มาก ปัจจัย
ด้านความสัมพันธ์ในสังคม ในเด็กกลุ่มที่เข้าสังคมปกติในโรงเรียนไม่ได้ จะเสพติดสังคมออนไลน์ได้มากกว่า และปัจจัยด้านครอบครัวที่มีการใช้เวลาร่วมกันน้อย มีการเลี้ยงดูที่ขาดวินัยเชิงบวก ส่งผลต่อการติดเกมออนไลน์
.
ส่วนแนวทางการป้องกันนั้นผู้ปกครองเองมีส่วนสำคัญในการดูและเฝ้าดูสังเกตพฤติกรรม ไม่ควรให้เด็กอายุต่ำกว่า 3 ขวบเล่นเกมทุกประเภท โดยเฉพาะเกมต่อสู้ที่มีภาพและเนื้อหาความรุนแรงเพราะเด็กอาจมีพฤติกรรมเลียนแบบ ผู้ปกครองควรกำหนดเวลาเล่นเกมให้ชัดเจน พยายามหากิจกรรมอย่างอื่นที่สร้างสรรค์ให้ลูกทำยามว่าง และถ้าหาก
มีอาการติดเกมอย่างรุนแรงมีพฤติกรรมที่ก้าวร้าวควรได้รับการบำบัดโดยจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยา โดยทีมวิจัยได้จัดทำคู่มือเพื่อให้ความรู้เสริมสร้างความเข้มแข็งของครอบครัวในการดูแลเด็กและเยาวชนช่วงสถานการณ์โควิด-19 เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาคุณภาพการปฏิบัติการดูแลเด็กและวัยรุ่นที่มีความเสี่ยงพฤติกรรมติดเกม